วันที่(4ก.พ.) เวลา10.00น.(ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น) ที่วัดเน็นบุตสึชู จังหวัดเฮียวโกะ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และกระทรวงการต่างประเทศ (กต.)ของไทย กับประเทศญี่ปุ่น โดยวัดเน็นบุตสึชู ร่วมกันจัดพิธีบำเพ็ญกุศลสตมวาร ครบ 100 วันเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งคณะผู้แทนไทย นำโดย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ดร.ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ วธ. นายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว นายดุสิต เมนะพันธุ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ข้าราชการ วธ.และกต.จากกรุงโตเกียวและนครโอซากา พร้อมด้วยพระอาจารย์คิวเซ อินชินโจ ผู้ก่อตั้งวัดเน็น บุตสึชู พระชินไก โคริ เจ้าอาวาส นายคาสุฮิกิ ฮิชิมุระ ประธานบอร์ดบริหารวัด ผู้แทนระดับสูงของประเทศญี่ปุ่น พระสงฆ์ ภิกษุณี และพุทธศาสนิกชนญี่ปุ่นกว่า 3,000 คน พร้อมกันใจประกอบพิธีกรรม
จากนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ได้เปิดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวาระครบรอบ 130 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่น ณ บริเวณด้านหน้าวิหารศากยมุนี นิทรรศการประกอบด้วยพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และงานพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ไทย-ญี่ปุ่น และความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดย พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้สืบเนื่องจากที่พระราชวงศ์ไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมายาวนาน เห็นได้ชัดจากการที่สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี ได้ทรงแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยการทรงฉลองพระองค์ไว้ทุกข์ เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในการแสดงความอาลัยแด่ผู้มิได้เป็นสมาชิกราชวงศ์ญี่ปุ่น และในต้นเดือนมีนาคมนี้ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะแห่งญี่ปุ่น จะเสด็จฯเยือนประเทศไทยเพื่อถวายราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมหาราชวัง ซึ่งจะเป็นการย้ำความสัมพันธ์ของสองประเทศที่ยั่งยืนและยาวนานตลอดไป
“พระอาจารย์คิวเซ ผู้ก่อตั้งวัด ยกย่องนับถือในหลวง รัชกาลที่ 9 เป็นครูของท่าน เนื่องจากพระองค์ช่วยให้เมืองไทยไม่มีอาวุธ พระองค์ทรงใช้ศาสนาพุทธเชื่อมโยงให้เกิดสันติภาพและนำมาซึ่งสันติสุขสู่ประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งเป็นหลักคำสอนของพุทธศาสนา และการจัดงานในครั้งเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ ซึ่งทั้งผู้ก่อตั้งและเจ้าอาวาสได้บอกกับตนว่านับเป็นพระบารมีของในหลวง รัชกาลที่ 9 เพราะระหว่างการจัดงานท้องฟ้าโปร่ง มีแดดออกทำให้อากาศอบอุ่น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้อากาศหนาวมีฝนและหิมะโปรยปรายตลอด”พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าว
ด้านเจ้าอาวาสวัดเน็นบุตสึชู กล่าวว่า การจัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกจัดขึ้นภายหลังการเสด็จสวรรคต ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความอาลัยจากหัวใจของพวกเรา
ที่มา – เดลินิวส์
