โดยค่ายต้นสังกัด WM Entertainment ได้แถลงถึงประเด็นนี้ ว่า
“สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ได้รับการยินยอมจากผู้ที่เข้าร่วมงาน โดยที่คลิปวิดีโอดังกล่าวมาจากงานแฟนมีตติ้ง ที่มีการจัดกิจกรรมที่เรียกว่า “จำลองช่วงเวลาสุดพิเศษจากซีรีส์เกาหลี” ซึ่งบรรยากาศในงานนั้นก็เป็นไปด้วยความสนุกสนาน และพิธีกรก็ได้ถามถึงความสมัครใจของหญิงมุสลิม โดยที่ได้คำนึงถึงวัฒนธรรมของชาวมุสลิมแล้ว เราเข้าใจว่า เหตุการณ์นี้อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดจากมุมมองที่แตกต่างกัน และนับจากนี้ไป ทางทีมงานจะพิจารณาเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรมให้รอบคอบมากกว่าเดิม เพื่อให้แฟน ๆ ที่เข้าร่วมงานแฟนมีตติ้งที่จัดขึ้นทั่วโลก ได้รู้สึกมีความสุขกันทุกคน”
ทางฟาก หนังสือพิมพ์ JAKIM ของมาเลเซีย ก็ได้ออกมาเผยว่า ผู้จัดงานอีเว้นท์ในครั้งนี้ คือ TGM Events ควรจะมีคำอธิบายสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังกล่าวอีกด้วยว่า ผู้จัดงานควรอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นต่อชุมชนชาวมุสลิมในมาเลเซียรวมถึงรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองด้วย
นอกจากนี้ กลุ่มเอกภาพมุสลิมมาเลเซีย หรือ ISMA ยังได้ออกมากล่าวผ่านทางหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของตนเอง เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า เหล่าศิลปิน K-Pop ส่วนใหญ่ ยังทำหน้าที่เป็นผู้เผยแพร่ศาสนา และจูงใจให้เกิดการเปลี่ยนศาสนาในต่างประเทศโดยอ้างว่า ศิลปินเกาหลีต่าง ๆ มักจะเริ่มอาชีพการเป็นนักร้องจากการเป็นสมาชิกของวงคอรัสในโบสถ์ในระหว่างการเตรียมตัวออกเดบิวต์อัลบั้ม อีกทั้งกลุ่ม Isma ยังอ้างว่า เพลงเกาหลีเป็นเพียงเวอร์ชั่นที่พัฒนามาจากเพลงร้องสรรเสริญศาสนาคริสต์แบบร่วมสมัยของเกาหลีเท่านั้น
ด้านนายไครี่ จามาลลุดดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬา ของมาเลเซีย กล่าวปิดท้ายว่า
“หลายคนอาจจะพูดถึงวัฒนธรรมเคป๊อป ผมหวังว่าเด็กสาวมาเลเซียจะกลับไปชอบคนสูง ผิวคล้ำ หน้าตาหล่อ ไม่ใช่คนผิวขาวซีด ตัวผอม และหน้าสวย คนเหล่านั้นไม่ใช่ลูกผู้ชายจริง ๆ”
Credit: All k-pop , Koreaboo ,Gurupop
