เป็นเหตุการณ์ที่ชาวเน็ตเป็นจำนวนมากต่างกดไลค์และแชร์ในโลกออนไลน์หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “Khun Yoo Yoksawat” ได้เผยวินาทีขึ้นรถ”แท็กซี่” ไปทำงานในวันที่ 15 ก.พ. 60 ที่ผ่านมา และพบว่าคนขับรับโทรศัพท์ก่อนจะพูดไปร้องไห้ไปเลยตัดสินใจถามถึงสาเหตุ
โดยหนุ่มคนนี้ได้กล่าวว่าขณะที่ขึ้นรถแท็กซี่คนนี้พบว่า “คนขับ” คุยโทรศัพท์และร้องไห้ไป เมื่อจับใจความสำคัญจึงเสียมารยาทถามโดยได้เฟตุผลจากปากคนขับว่า “แม่” ของคนขับเพิ่งเสียด้วยโรคมะเร็งเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลทหารเรือ นั่งหาลูกค้าทั้งคืนเพราะหาเงินเพื่อใช้เคลื่อนย้ายศพของแม่ไปบ้านราชบุรีแต่ยังไม่พอ
ภาพลูกชายที่คนขับกล่าวว่าไม่สบาย
ด้านหนุ่มคนนี้เลยตัดสินใจจะช่วย ซึ่งตอนแรกจะให้ภรรยาช่วยเป็นธุระ แต่เมื่อทราบว่าน้องชายคนขับได้มัดจำบางส่วนไป อีกทั้งทราบว่าหากส่งหนุ่มคนนี้เสร็จลุงคนขับจะรีบกลับราชบุรีพร้อมลูกชาย ที่นอนซมอยู่หน้ารถยนต์เพราะไม่สบาย
หลังจากที่เห็นภาพดังกล่าวหนุ่มคนนี้เลยตัดสินใจให้พี่คนขับไปแวะปั้มเพื่อจะกดเงินให้เป็นค่าเคลื่อนย้ายศพ และให้พี่คนขับได้นอนสักพักแล้วกลับบ้าน
ข้อความจากเฟซบุ๊ค
ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนรถแท๊กซี่ กำลังเดินทางจากบ้านไปทำงาน
นั่งมาได้นิดเดียว เห็นพี่คนขับรับสายโทรศัพท์ พูดไปร้องไห้ไป
ผมพอจับใจความสำคัญในเรื่องที่แกพูด พอได้บ้าง
พอแกวางสาย ก็เลยเสียมารยาทถามแก
แกบอก แม่เพิ่งเสียด้วยโรคมะเร็งเมื่อคืนนี้ ที่โรงพยาบาลทหารเรือ แกวิ่งรถทั้งคืน เพราะเงินค่าเคลื่อนย้ายศพ ไปบ้านที่ราชบุรีมันมีไม่พอ
ผมซักไซร้แกพักนึง ตอนแรกตั้งใจที่จะให้คุณเก๋ภรรยา ช่วยเป็นธุระให้ เพราะหล่อนทำงานอยู่มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง ปรากฎว่าน้องชายแกมัดจำค่าเคลื่อนย้ายศพ ให้กับร้านขายโลงศพไปแล้ว
ผมนั่งอยู่เบาะหลัง มีอยู่ช่วงแกบอกว่า ส่งผมเสร็จจะบึ่งกลับราชบุรีพร้อมลูกชายเลย เนี่ยมันนอนไม่สบายอยู่เบาะหน้าเนี่ย!
เหยด!!!! พอผมชะโงกไปดู เด็กมันหมดสภาพตามภาพที่เห็น
เลยตัดสินใจ บอกแกให้ไปส่งผม เดี๋ยวหาปั๊มให้ผมแวะกดเงินแป๊บ ผมออกค่าเคลื่อนย้ายศพแม่พี่ที่เหลือเอง พี่ไม่ต้องวิ่งรถหาแล้ว แวะนอนพักซักงีบ แล้วกลับบ้านนอกเหอะ พี่แม่งโคตรอิดโรยเลย
ผมเองก็ไม่ค่อยมีตังค์มากมายอะไรนักหรอก แต่คนเราตอนยากลำบากเนี่ย ช่วยได้ก็ช่วยกัน แกร้องไห้หนัก ผมปลอบแกตลอดทาง
