จากกรณีที่มีรถเบนซ์สีดำชนรถจักรยานยนต์ ของ นายสุกิจ จันทร์ปลั่ง อายุ 78 ปี และ น.ส.สิริญา เพ็ชชุมพร อายุ 48 ปี จนได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ก่อนหลบหนีไป บริเวณถนนเลียบทางรถไฟหัวโกรก หมู่ 3 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 60 พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพียวพนิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ได้รับค่ำสั่งจาก พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ให้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่าไปถึงไหนแล้ว เนื่องจากคดีนี้ล่วงเลยมาถึง 8 วันแล้ว ยังไม่มีวี่แววของผู้กระทำผิดเลย
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์รพี กล่าวว่า สำหรับในคดีดังกล่าวก็ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรศรีราชา เร่งติดตามความคืบหน้าทางคดี ทั้งนี้ ก็สืบเนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และจากการตรวจสอบฐานข้อมูลทางคดีแล้วนั้น พบว่าป้ายทะเบียนรถเบนซ์คันที่ก่อเหตุเป็นป้ายปลอมที่ทำขึ้นเอง โดยมีลักษณะเป็นป้ายยาว สีขาว ไม่มีตราขนส่ง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ภาพจากการกล้องวงจรปิดตามเส้นทางผู้ก่อเหตุขับผ่าน ซึ่งคาดว่าน่าจะจับกุมผู้ก่อเหตุได้แน่นอน ซึ่งขอเวลาเจ้าหน้าที่ดำเนินการอีกระยะเวลาหนึ่ง
ด้าน พต.ท.สุทิน นิลแย้ม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการสถานีตำรวจภูธรศรีราชา กล่าวว่า คดีดังกล่าวทางพนักงานสอบสวนไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งติดตามเรื่องนี้ตลอดเวลา โดยก่อนหน้านี้ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดไปให้ทางทีมงานตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำความผิดทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบความละเอียดว่า ทะเบียนดังกล่าวหมวดอักษร และตัวเลขอะไร
จากการยืนยันเป็น กง 3000 ชลบุรี และที่ผ่านมา ได้ตรวจสอบกับสำนักงานขนส่งแล้วพบว่า ทะเบียน กง 3000 มีจำนวน 3 คัน คือ ชลบุรี นนทบุรี และเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสีเทาทั้งหมด แต่คันที่ก่อเหตุเป็นสีดำ ดังนั้น มีความเป็นไปได้ว่าทะเบียนดังกล่าวเป็นทะเบียนปลอมแปลง และนำมาสวมเอง ซึ่งขณะนี้ทางฝ่ายสืบสวนก็ได้เร่งติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย คาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้
CR. – manager.co.th
by TVPOOL ONLINE