เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ตำรวจอุดรฯ เชิญแม่-พ่อเลี้ยง เด็ก 3 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีรอยช้ำทั่วตัว ตับแตก ม้ามฉีก กระดูกซี่โครงหัก มาสอบสวน ปฏิเสธไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ขณะแพทย์เผย ถอดเครื่องช่วยหายใจ เด็กอาจเสียชีวิต เปรียบรถชน อาการยังไม่หนักเท่า …

กรณี น้องเปา (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ ชาว ต.ท่าลี่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ที่ถูกส่งตัวเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี โดยน้องเปาได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งภายนอกและภายใน แขนขวาหักผิดรูป มีเลือดออกในช่องท้อง มีรอยช้ำข้างลำตัว ใต้ตาขวา ศีรษะด้านหลังบวมยุบ มีเลือดออกที่หูทั้งสองข้าง อาการสาหัส ซึ่งทาง น.ส.เก๋ (นามสมมติ) แม่แท้ๆ และนายโต (นามสมมติ) สามีใหม่ บอกว่า น้องเปา รถจักรยานล้ม และตกเครื่องเล่นในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ขณะที่ทางตำรวจ แพทย์ พยาบาล และสหวิชาชีพ ได้ประชุมด่วนเพื่อสรุปสาเหตุว่าเกิดจากการถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ เนื่องจากตรวจพบตับแตก ม้ามฉีก กระดูกซี่โครงหัก 3 ซี่ อีกทั้งจากการสอบปากคำแม่และพ่อเลี้ยงของน้องเปา ยังให้การไม่สอดคล้องกัน

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.กุมภวาปี เพื่อเข้าพบ พ.ต.ท.พงศ์พันธ์ นาขวา รอง ผกก.สอบสวน สภ.กุมภวาปี พ.ต.ท.มนัส อัดโดดดร รอง ผกก.สส.สภ.กุมภวาปี พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ฉวีทอง สว.สส.สภ.กุมภวาปี ซึ่งได้เชิญ น.ส.เก๋ และนายโต มาสอบสวนแบบแยกสอบปากคำ ซึ่งทั้งสองยังให้การปฏิเสธ

พ.ต.ท.พงศ์พันธ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจสอบสวนและตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ลงพื้นที่สอบพยานและหาหลักฐานต่อเนื่อง แต่ยังไม่พบหรือมีใครให้ข้อมูลที่แน่ชัดได้ แต่ได้ข้อมูลบางส่วนว่า เด็กเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานล้ม และตกเครื่องเล่นในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก แต่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะมีการกระทำรุนแรงต่อเด็ก

“จากการสันนิษฐานร่วมกันกับแพทย์เชื่อว่า พบร่องรอยการกระทำต่อเด็กอยู่หลายจุดและต่อเนื่อง เกิดอาการบาดเจ็บสะสม ส่วนการกระทำแบบไหนอย่างไร ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และขอเวลาความจริงก็จะปรากฏ เพราะเราทำงานอย่างเต็มที่และจะพยายามทำให้ดีที่สุด และวันนี้ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ไพบูลย์ ไชยสิทธิ์สกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เจ้าของคดีลงพื้นที่สอบสวนปากคำพยานที่มีบ้านอยู่ใกล้เคียง” พ.ต.ท.พงศ์พันธ์ กล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านพักของน้องเปา และพบกับญาติที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้กัน โดยนางน้อย (นามสมมติ) มีศักดิ์เป็นยายของน้องเปา เผยว่า บ่ายวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะตนอยู่ในบ้านได้ยินเสียงร้องเอะอะโวยวาย จึงออกมาหน้าบ้านพบพ่อเลี้ยงน้องเปากำลังเอาน้ำในโอ่งหลังบ้านราดตัวน้องเปา จึงตะโกนถามว่า น้องเปา เป็นอะไร ได้คำตอบว่าน้องเปาเกิดอาการชักตกจากที่นอน ทางญาติที่อยู่บ้านใกล้กัน ต่างพากันออกจากบ้านมาช่วยพาไปโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าลี่ ซึ่งตอนนั้น น้องเปาไม่มีอาการตอบสนองใดๆ

ขณะที่ครูผู้สอนภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เปิดเผยว่า น้องเปาเป็นเด็กที่ร่าเริง แต่ระยะหลังเป็นคนซึมเศร้า เวลานอนจะร้องไห้โดยไม่ทราบสาเหตุ วันไหนพ่อเลี้ยงมารับจะวิ่งไปหลบหลังครู ไม่อยากกลับบ้าน แต่วันไหนแม่มารับ จะกลับบ้านตามปกติ ส่วนที่ไม่มาเรียน ตอนแรกสอบถามแม่ก็บอกว่า น้องเปาเป็นไข้เลือดออก หยุดเรียน 2 สัปดาห์ จากนั้นก็ไม่มาเรียนอีกเลย ก่อนที่จะทราบว่า ญาติได้ย้ายน้องเปาไปเรียนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าลี่ เพราะใกล้บ้าน อย่างไรก็ตาม ที่ว่าน้องเปาตกเครื่องเล่นที่ศูนย์ฯ แห่งนี้ก็ไม่น่าจะมีอาการหนักขนาดนั้น เนื่องจากเด็กทุกคนอยู่ในสายตาครูตลอดเวลา

ขณะที่หอผู้ป่วยศัลยกรรมประสาท ชั้น 7 โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี นายสุชัย บุตรสาระ รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี นายภูมิพัฒน์ ธนาสิทธิตานนท์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี ร่วมเดินทางเข้าเยี่ยมน้องเปาที่ยังอยู่ในอาการโคม่า ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยชีวิต โดยมี นพ.ณรงค์ ธาดาเดช รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ พญ.เกษมพร ไชยเอีย หน.กลุ่มงานกุมารเวชกรรม และกลุ่มสหวิชาชีพชี้แจงอาการของเด็ก เกิดจากถูกทำร้าย ไม่ตรงกับคำให้การของแม่และพ่อเลี้ยง

นพ.ณรงค์ พร้อมคณะแพทย์ ชี้แจงว่า น้องเปาถูกส่งตัวจาก รพ.กุมภวาปี คณะแพทย์ได้ตรวจพบว่า กะโหลกร้าว สมองซีกซ้ายบวม ก้านสมองซ้าย-ขวาเคลื่อน ตกเลือด ม่านตาไม่ตอบสนองต่อแสง หรือที่เรียกว่า “สมองตาย” ซี่โครงด้านซ้ายหัก 3 ซี่ ตับซ้ายฉีก ไตขวาฉีก มีเลือดในช่องท้อง และแขนขวาหัก หากถูกรถชนยังไม่รุนแรงขนาดนี้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ถอดเครื่องช่วยหายใจออกเด็กก็จะเสียชีวิตในทันที โดยความดันสัญญาณชีพเริ่มลดลงเรื่อยๆ

จากรายงานล่าสุด เด็กชายคนดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา(27 ก.พ.) เวลา 23.05 น. ส่วนเรื่องคดี ตร.สภ.กุมภวาปีเตรียมประชุมหาตัวผู้กระทำผิดในเวลา 10.30 น.วันนี้

พ.ต.อ.พิเชฐ วงษ์บุรี ผกก สภ.กุมภวาปี เตรียมเรียกประชุมพนักงานสอบสวนและสหวิชาชีพที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพยานและผู้เห็นเหตุการณ์หนูน้อยถูกทำร้าย โดยจะมีการประชุมในวันนี้เวลา 10.30 น.ที่สภ.กุมภวาปี ตอนนี้พอรู้ตัวคนกระทำรุนแรงต่อเด็กแล้วและคาดว่าจะออกหมายจับในเร็ววันนี้