เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

         ไม่มีการอาบน้ำใดที่จะดูดีได้เท่ากับการได้ชำระล้างร่างกายด้วยละอองฝอยจากฝักบัว
แต่การประมาทเลินเล่อในระหว่างทำความสะอาดร่างกาย ที่มักพบได้บ่อย ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการปรับอุณหภูมิที่ร้อนจนเกินไป
การล้างผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวไม่หมดจด ปล่อยให้เกาะอยู่ตามร่างกาย
ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังของคุณแห้ง ลอกเป็นขุย และตามมาด้วยโรคกลากเกลื้อน
งานนี้ ดร.เฮเทอร์ วูเลย์ ลอยด์ นายกสมาคมผิวหนังและความงามในนิวยอร์ก
ได้ระบุให้ทราบถึง
5
วิธีในการทำร้ายผิวจากการอาบน้ำ เพื่อเซฟผิวสวย ๆ หลังการทำความสะอาดเรือนร่างมาฝากกันค่ะ

  

         ปรับอุณหภูมิน้ำร้อนและอาบนานจนเกินไป

          แน่นอนว่าการอาบน้ำร้อนเป็นวิธีหนึ่งที่จะอุ่นขึ้นในเช้า-เย็น
หรือผ่อนคลายจากความเครียดหลังการทำงานหนัก แต่มันก็ไม่ดีสำหรับผิวของคุณ
อาบน้ำอุ่นบ่อย ๆ และเป็นเวลานาน ๆ ดร.วูเลย์ กล่าวไว้ว่า “การอาบน้ำร้อนเป็นเวลานานจะทำให้ผิวของคุณสาว
ๆ ลอก จากการสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็เป็นสาเหตุของโรคกลากเกลื้อน
รวมถึงอาการคันตามมาได้ ซึ่งถ้าหากคุณสาว ๆ อยากมีสุขภาพดี แนะนำว่าควรอาบน้ำอุ่น
ๆ ในระยะเวลาสั้น ๆ ก็เพียงพอแล้ว และถ้าเป็นได้ควรหลีกเหลี่ยงการอาบน้ำร้อนเป็นเวลานาน
ๆ”

ดังนั้นหากคุณสาว
ๆ คิดที่จะหมุนวาล์วน้ำไปที่ระดับความร้อนสูง เปลี่ยนเป็นน้ำเย็นจะดีกว่า
แต่น้ำที่เย็นเกินไปก็ไม่ส่งผลต่อสุขภาพผิวของคุณสาว ๆ แต่อย่างใด
เพราะประโยชน์ของน้ำเย็นจะช่วยลดอาการแสบ เป็นผื่นลอกแดง หรืออาการพองจากการอาบน้ำร้อนเท่านั้น

  


         ใช้เจลทำความสะอาดผิวที่มีฟองมากจนเกินไป

         ดร.ลอยด์
กล่าวว่า
“เจลทำความสะอาดผิวที่มีฟองมากจนเกินไปจะมีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นตัวการลดแรงตึงผิว
ซึ่งทำให้ชั้นผิวหนังแยกและเกิดการหดตัว
จึงทำให้ผิวหนังสูญเสียทั้งน้ำและน้ำมันจากสารเคมีเหล่านี้ ดังนั้นเราจะพบอาการลอกและปัญหาผิวพรรณหยาบกร้าน
หากใช้สบู่หรือเจลทำความสะอาดผิวที่มีฟองมากเกินไป”
งานนี้สาวคนไหนไม่อยากผิวแห้งผิวลอก หรือผิวหยาบกร้านนั้น
แนะนำว่าให้ลองเปลี่ยนมาใช้สบู่เหลวสูตรบางเบาอ่อนโยน หรือจะเลือกสบู่สูตรเด็กเล็ก
ๆ ก็ได้ไม่ว่ากัน

 

          แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังกล่าวเสริมว่า
“ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวบางยี่ห้อนั้น ทำให้ผิวหนังลอกน้อยสุด
เพราะไม่ได้ทำให้น้ำมันตามธรรมชาติในผิวลดน้อยลงแต่อย่างใด
และยังช่วยเพิ่มโปรตีนให้กับผิวอีกด้วย แต่ในกรณีที่คุณจำเป็นต้องชำระล้างร่างกาย
ควรเลือกใช้สบู่ก้อนจะดีกว่าสบู่เหลวยี่ห้อโดฟ แต่หากจะล้างมือเพื่อฆ่าแบคทีเรีย
ควรเลือกแบบลิขวิดเจลจะดีที่สุด”

  


         ล้างสบู่ออกจากร่างกายไม่สะอาด

 บ่อยครั้งหลังจากที่คุณออกจากห้องอาบน้ำ
คุณจะพบฟองสบู่ติดอยู่ตามซอกคอได้ตลอดเวลา แต่ถ้าหากคุณเช็ดมันออกในขณะที่ผิวของคุณแห้งนั้น
แพทย์ผิวหนังมีคำเตือนออกว่า มันอาจทำให้เกิดอาการผิวหนังระคายเคืองและแห้งกร้าน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของสบู่ที่คุณใช้
ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว
แนะนำว่าคุณควรเลือกสบู่หรือเจลทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน และมีครีมบำรุงผิวผสมอยู่ด้วย
ทั้งนี้
เพื่อช่วยปกป้องผิวหนังลอกและแห้งกร้านของคุณหลังจากการทำความสะอาดผิวที่ไม่สะอาด
แต่ทางที่ดีนั้น ดร.ลอยด์บอกว่า
การชำระล้างสบู่ให้สะอาดหมดจดหลังการอาบน้ำจะดีที่สุด

  

         ใช้มาส์กบำรุงผิวหน้าที่มีรูขุมขนลึกหลังการอาบน้ำ

          หลายคนเลือกที่จะทำความสะอาดผิวหน้าในขณะอาบน้ำ
หลังจากนั้นก็มาส์กหน้า ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่ตรงและใกล้เคียงกัน
ดร.ลอยด์อธิบายว่า “ปกติแล้วการมาส์กหน้านั้นควรทำก่อนล้างหน้า
เพราะการทำความสะอาดผิวหน้าก่อนที่จะมาส์กหน้าจะยิ่งกระตุ้นให้ผิวหน้าของคุณแห้ง
และที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น ช่วงเวลาหลังล้างหน้าเป็นช่วงที่ผิวหนังจะดูดซึมได้เร็วยิ่งขึ้น
ดังนั้นจะทำให้ผิวหน้าของคุณเกิดการระคายเคืองได้มากขึ้น
และยิ่งถ้าหากผลิตภัณฑ์ที่ใช้หลังการอาบน้ำของคุณมีส่วนผสมของน้ำมันนั้น
จะยิ่งกระตุ้นทำให้ผิวเกิดการอุดตันมากขึ้นไปอีก” แพทย์ผิวหนังกล่าว

  


        ซับผิวแรง ๆ ด้วยผ้าขนหนูเนื้อหยาบ
แทนที่จะเลือกแตะผ้าขนหนูเนื้อนุ่มเบา ๆ

หลายคนมักเกิดอาการหนาวสั่นหลังการอาบน้ำ
โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว
และแน่นอนว่าหลายคนนั้นอยากที่จะเช็ดตัวให้แห้งอย่างรวดเร็ว
แต่เพื่อให้ไม่ทำร้ายผิวจนเกินไป แพทย์ผิวหนังแนะนำว่า “ควรใช้ผ้าขนหนูนุ่ม ๆ
ตบเบา ๆ ที่บริเวณผิวของคุณ
เพื่อเซฟน้ำมันในผิวของคุณไม่ให้แห้งไปอย่างรวดเร็วหลังการอาบน้ำ
และเพื่อถนอมผิวสวย ๆ ของคุณสาว ๆ ไปนาน ๆ นั้น ดร.ลอยด์บอกเพิ่มเติมว่า
ควรเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวทันทีหลังการอาบน้ำ
ด้วยการชโลมมอยซ์เจอไรเซอร์ไปยังที่แห้งเร็วสุดอย่าง แขน ขา และอวัยวะส่วนอื่น
ๆ”

TV Pool OnlineTV Pool Online