“ชมพู่” เปิดใจโมเมนต์หวานฉ่ำเผยนาที น็อต คุกเข่าขอวิวาห์

    มาอีกแล้ว…มากันให้ไม่หยุดไม่หย่อนกับข่าวดาราสุดแซ่บที่เจ๊นั้นทั้งขุด ทั้งคุ้ยมาให้แฟนๆของ “ทีวีพูล” ได้อัพเดทกันไม่ให้ตกกระแสเช่นเคย  งานนี้ก็มาถึงคิวของนางเอกสุดฮอตอย่างสาว “อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ที่เวลานี้จะไม่พูดถึงชีก็คงจะไม่ได้เพราะตอนนี้เธอกำลังจะกลายเป็นเจ้าสาวป้ายแดง สะใภ้หมื่นล้านไปแล้ว  แหมๆๆ เดี๋ยวจะหาว่าเจ๊พูดเกินจริงไปนะคะ  ก็อย่างที่เห็นๆกันอยู่ว่าที่วูบวาบอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของชีหน่ะแหวนเพชรสิบกะรัตเลยนะคะ  แต่เห็นแบบนี้แฟนหนุ่มอย่าง “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์ ” บอกเลยว่าแค่จิ๊บๆ

    ล่าสุดก็เพิ่งจะได้ยินข่าวเม้าท์จากวงใน สาธยายให้เจ๊ฟังว่าสาว “ชมพู่” นั้นเตรียมบินลัดฟ้าไปฝรั่งเศสเพื่อที่จะเลือกชุดแต่งงานด้วยตัวเอง  เพราะมีแบรนด์ดังระดับโลกหลายแบรนด์เสนอจะตัดชุดแต่งงานให้สาวสวยคนนี้  แหม..เริ่ดจริงอะไรจริง  แต่ยังค่ะ ข้าวเม้าท์ยังไม่จบ  เพราะลือกันมาอีกระลอกว่าตอนนี้ชีได้ฤกษ์ดีจะลั่นระฆังวิวาห์ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้แล้วอีกด้วย

   คราวนี้ไม่รอช้าค่ะ  เม้าท์กันมาซะหนาหูขนาดนี้เจ๊ก็ต้องขอเกี่ยวแขนสาว “ชมพู่” มีเปิดอกโอเพ่นจะให้หายสงสัย  ว่าที่เม้าท์กันมากันไปนี่มันจริงป๊ะ

“จริงๆ ตอนนั้นก็ดีใจนะ  ก็แหม..รอมาตั้งนานเนอะ (หัวเราะ) จริงๆเราก็พอมีลางสังหรณ์มาก่อนแล้วหล่ะ  แต่เราก็คิดว่าคงไม่ใช่หรอกมั้ง  ก็เลยไปชิวๆตามเค้าไป  แต่พอมันมีเกิดขึ้นจริงๆเราก็ดีใจนะ  ตื้นตัน  แต่ด้วยความที่เราก็รู้ว่าเค้าเป็นก็เป็นคนไม่ค่อยหวานไง  เราก็เลยไม่นึกว่าเค้าจะแสดงความรู้สึกแบบนี้ออกมา คือเราก็เลยรู้เลยว่าเค้าตื่นเต้นมากๆ”

“ตอนนั้นไม่คิดอะไรเลย  บอกตรงๆเลยก็คือหูมันอื้อไปหมด  มันไม่ได้ยินอะไรแล้ว  คือตอนนั้นเราได้ยินแค่เค้าบอกว่า “เบื่อเป็นแฟนพี่หรือยัง” แล้วพอมันมีเหตุการณ์ต่อๆมาคือเราก็หูอื้อ  อึ้งไปแล้ว  แล้วก็งงๆ  จริงๆของแบบนี้ต้องไปโดนกันเองนะถึงจะรู้ (หัวเราะ)”

“อันนี้ถ้ามองในส่วนของชม  คือเรามองว่ามันเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นนะเพราะส่วนใหญ่ก็คือญาติของคุณน็อต  เพื่อคุณน็อต  และก็เพื่อนสนิทของเราที่พอจะมากันได้แค่นั้น”

“คุณแม่ก็ชิลๆค่ะ  คือจริงๆวันนั้นคุณน็อตก็ชวนแม่ไปด้วย แต่แม่ก็ไม่ได้มาค่ะ  บอกแค่ว่าให้ไปขอกันเอง (หัวเราะ) ”

“คือถ้าเป็นการพูดคุยแบบเป็นกิจจะลักษณะเลย  เป็นขั้นตอนประเพณีก็ยังไม่มีนะคะ  แต่ถ้าผู้ใหญ่เค้าไปคุยกันเองเนี่ยก็มีคุยกันบ้างอ่ะค่ะ  ก็ตามประสาผู้ใหญ่เค้าอ่ะเนอะ”

“ตอนนี้นี่มีมาหลายสำนักเลยทีเดียวนะ (หัวเราะ) จริงๆก็ตั้งใจอยากให้เป็นปีนี้ค่ะ (มีข่าวเม้าท์มาว่าน่าจะเป็นเมษานี้  เพราะวงในเม้าท์กันมาว่าเราไปขอเลื่อนเปิดกล้องละคร) หืม…ไม่หรอกค่ะ  เพราะละครเรื่องนั้นก็ยังไม่เคาะว่าจะเปิดกล้องเมื่อไหร่ จริงๆละครเรื่องนั้นมันก็เลื่อนเปิดกล้องมาเรื่อยๆอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงานแต่งของเรา”

“แหม..ถ้าเพื่อนๆสนิทกันจริงก็ต้องแจกผ้าจริงมั้ยคะ (หัวเราะ) ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเตรียมตัวอะไรหรอกค่ะเพราะมันยังไม่มีวันกำหนดแน่นอนจริงๆ อย่างที่บอกอ่ะว่ามีหลายสำนัก”

“จริงๆก็ยังไม่ได้คิดอะไรเลย  แต่ก็หวังไว้ว่าจะเอาเป็นอะไรง่ายๆ  สถานที่ก็คงจะเลือกในกรุงเทพ ก็เอาง่ายๆใกล้ๆทุกคนมาสะดวก  คือหลักของงานมันก็คือการที่เรามาบอกทุกคนว่าเราแต่งงานกัน  แล้วเราก็อยากให้คนที่เค้าจะมาร่วมยินดีกับเรามากัน  เราก็เอาที่เป็นอะไรเรียบๆง่ายๆสะดวกกับทุกคนดีกว่า ส่วนเรื่องการวางแผนอะไรอื่นๆเนี่ย  ถ้าเรามีวันมาจริงๆเราก็คงจะวางแผนได้ง่ายขึ้น”

“คือเราก็ไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ  และเราก็จะไม่พยายามกดดันตัวเองหรือคุณน็อตให้มันกลายเป็นแบบนั้น (หัวเราะ) ก็อย่างที่บอกแหละค่ะเราก็เน้นง่ายๆสะดวกๆอยากให้คนที่รักเราและอยากมาร่วมยินดีกับเราเค้าสะดวกที่จะมากันให้มีเอนจอยกันดีกว่า”

“เราก็คงไม่ได้จะไปสายแปลกเนอะ  ถึงแม้เราจะดูสุดไปบ้างแต่สำหรับวันแต่งงานเราก็คือเป็นให้ดูสวยงามละกันค่ะ  คงไม่ได้จะดูเปรี้ยว  ดูแวหกแนวอะไรเท่าไหร่”

“ก็คงมีการไปดูบ้างค่ะ  เป็นแรงบันดาลใจอะไรแบบนี้เบาๆ  ก็ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง (จะลากหนุ่มน็อตไปด้วยมั้ย) อุ้ย ไม่ได้ซิ  เค้าไม่ให้เห็นนะ  มันน่าจะเป็นการถือเคล็ดนะ  เค้าไม่ให้เห็นกัน”

“คือเราก็ค่อนข้างเปิดกว้างกับตรงนี้นะ  คือเราไม่ได้ยึดว่าจะต้องเป็นแบรนด์หรูเท่านั้น  แต่เราก็ไปดูๆไว้ถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตา ได้แรงบันดาลใจ  ได้ดูอะไรสวยๆงามๆ”

“ไม่มีนะคะตอนนี้  ไม่มีใครเสนอตัวมาเลย คือถ้าติดต่อมาทางชมเลยนี่ไม่มีค่ะ  แต่คือติดต่อมาทางผู้จัดการของชมหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ”

“คือตั้งแต่มีประกาศว่าจะแต่งเนี่ย  คนถามเยอะมากกก ว่าชุดจะเป็นยังไง  คือเราก็พยายามไม่กดดันตัวเองนะ เราก็คือเอาตามที่เราสบายใจ เราก็คงจะต้องเลือกอะไรที่เราใส่แล้วสวย  ใส่แล้วรู้สึกแฮปปี้  เพราะเราก็ต้องเลือกตามสรีระของเราเองด้วย สำหรับชมเองค่อนข้างเปิดกว้าง  เพราะงานก็นะมันต้องใช้มากกว่าหนึ่งชุดอยู่แล้ว  ตอนนี้ก็ต้องดูๆกันไปก่อน”

“โอ้ย..ไม่ถึงค่ะไม่ถึง (ประมาณ 8 หรือเปล่า) ก็คิดว่าน่าจะประมาณนั้นนะคะ แต่เราก็ไม่รู้อ่ะ  เราก็ไม่ได้ถามเค้ามาอ่ะเนอะ เราก็เดาๆเอา (หัวเราะ)”

“เอาจริงๆคือแซวจนเราอายแล้วนะ คือแบบเค้าก็ชอบมามองอ่ะเนอะ  เราก็จะเขินมันก็ทำให้เราไม่ค่อยอยากจะใส่เท่าไหร่ แต่เราก็ใส่ติดไว้กับเราเนอะ  แต่ถ้าไปไหนไกลๆเราก็จะไม่เอาไปด้วย  เพราะว่าเราก็เคยมีประวัติไง  ถอดแหวนทิ้งไว้บนเครื่องบิน  เราก็เก็บใส่เซฟดีกว่า (หัวเราะ)”

“มันก็ต้องโอเคขึ้นแหละ  โดนบ่อยขนาดนี้  แต่เอาจริงๆเราก็ไม่ค่อยอยากให้ไปโฟกัสตรงเรื่องแหวนว่ามันจะเท่าไหร่  มันจะกี่กะรัต  ก็แค่อยากให้มันเป็นของที่แทนความรักอะไรแบบนี้  ก็ไม่อยากให้มาสนอะไรตรงนี้กันมากเนอะ  ไปสนใจผลงานเราดีกว่าเนอะ (หัวเราะ)”

    ก็ต้องทำใจเนอะ  สะใภ้หมื่นล้านก็แบบนี้  ใครๆก็ต้องสนใจเป็นธรรมดา  ว่าแต่มีพอจะแบ่งให้เจ๊ซักกะรัตสองกะรัตมั้ยค๊า  อิอิ