เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. “เจ้าบุญทุ่ม”บาร์เซโลน่า จากสเปน เปิดสนามคัมป์ นู รับการมาเยือนของปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากฝรั่งเศส โดยนัดแรกเปแอสเชชนะมาขาดลอย 4-0

นัดนี้บาร์ซ่าส่ง 3 ประสานอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, เนย์มาร์ นำทัพเช่นเดิม ส่วนทีมเยือนมี เอดินสัน คาวานี่, ลูคัส มูร่า, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ เป็นแกนหลักในแนวรุก

เริ่มเกมมาเพียง 3 นาทีเท่านั้น เป็นบาร์ซาที่สามารถพังประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่แนวรับเปแอสเชโหม่งเคลียร์บอลในเขตโทษกันไม่ขาด ทำให้ลูกย้อยไปเข้าทาง หลุยส์ ซัวเรซ เทกตัวโขกระยะเผาขนตัดหน้า เควิน แทร็ปป์ ตุงตาข่าย ส่งให้ทัพอาซูลกรานาออกนำ 1-0

จากนั้นนาทีที่ 40 อดีตแชมป์ 5 สมัยมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีกแบบโชคช่วยเล็กน้อย จากความขยันของ อิเนียสต้า ที่วิ่งไปงัดบอลจากสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายด้วยการตอกส้นไปโดน เลย์แว็ง กูร์กซาวา เตะสกัดผิดเหลี่ยมปลิ้นเข้าประตูตัวเองไป สงเคราะห์ให้เจ้าบ้านหนีห่างเป็น 2-0 และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลังเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น บาร์ซาก็มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ มูนิเยร์ ไปเสียท่าลื่นล้นจนกลายเป็นการขัดขวางทางการเลี้ยงบอลของ เนย์มาร์ ก่อนจะเป็น เมสซี รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ช่วยให้บาร์ซานำ 3-0

อย่างไรก็ตาม ในนาทีที่ 62 เปแอสเชกลับสามารถตามตีไข่แตกได้สำเร็จ จากลูกฟรีคิกบริเวณกลางสนามที่ มาร์โก แวร์รัตติ วางยาวเข้าเขตโทษให้ กูร์กซาวา โหม่งชงต่อให้ เอดินสัน คาวานี วอลเลย์กึ่งไซด์ก้อยด้วยขวาแสกหน้า มาร์ค อังเดร แทร์ สเตเก้น อย่างเด็ดขาด ช่วยให้ทีมเยือนไล่มา 1-3 แต่กลายเป็นประตูสำคัญที่ทำให้แชมป์ลีกเอิงมีสกอร์รวมนำอยู่ 5-3

แต่โอกาสจะยากเย็นขึ้นไปอีก แต่บาร์ซายังไม่ถอดใจ เมื่อมาบวกลูกสี่เพิ่มได้อีก ในนาทีที่ 88 จากลูกฟรีคิกเยื้องมาทางกราบซ้ายที่ เนย์มาร์ บรรจงปั่นด้วยขวาส่งบอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม ส่งให้เจ้าบ้านนำ 4-1

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+1 บาร์ซามาได้จุดโทษอีกครั้ง จากจังหวะที่ ซัวเรซ โดน มาร์ควินญอส ตัดฟาวล์จนล้มลงไป ก่อนจะเป็น เนย์มาร์ รับหน้าที่สังหารเข้าไป ทำให้เจ้าบ้านนำ 5-1

และแล้วก็มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในคัมป์นูจนได้ ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+5 จากจังหวะที่ เนย์มาร์ หยอดบอบเข้าเขตโทษให้ตัวสำรองที่ลงมาแทน ราฟินญา ตั้งแต่นาทีที่ 76 อย่าง แซร์จี์ โรแบร์โต้ โฉบตัดหน้า แทร็ป แล้วดีดบอลตุงตาข่าย ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นบาร์เซโลนาที่ถล่มไป 6-1 รวมผลสองนัดแซงชนะแบบเหลือเชื่อ 6-5 ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้แบบสุดมหัศจรรย์

 

 

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online