ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (9 มี.ค.) ที่ห้องประชุม สภ.เมืองอุตรดิตถ์ พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับ ร.ต.ท.วินัย เชียงเลน อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ งานป้องกันและปราบปราม (ป.)
สืบเนื่องมาจาก ขณะที่ ร.ต.ท.วินัย ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าหน่วยบริการประชาชนไฮ่ฮ้า ต.บ้านอ่านนาขาม อ.เมืองอุตรดิตถ์ โดยช่วงก่อนเกษียณอายุราชการราว 3 เดือน ร.ต.ท.วินัย รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191ภ.จว.อุตรดิตถ์ว่า มีหญิงสาวขอความช่วยเหลือ เนื่องจากจะถูกคนร้ายพยายามจะข่มขืน หลังรับแจ้งจึงรีบไปดูที่เกิดเหตุเพื่อหวังระงับเหตุก่อนที่หญิงสาวจะถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ร.ต.ท.วินัย กล่าวว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบหญิงสาวคนดังกล่าวร้องขอความช่วยเหลืออยู่บริเวณข้างถนนหลวงสาย 11 หรือถนนสายอุตรดิตถ์-เด่นชัย จึงได้เปิดไฟวับวาบหลังคารถสายตรวจ แต่คนร้ายที่กำลังจะก่อเหตุ ไม่มีความเกรงกลัวตำรวจแต่อย่างใด และพยายามจะเข้ามาประชิดตัว เพราะเห็นว่าตนอายุมากแล้ว ขณะนั้นอายุจะครบ 60 ปีแล้ว
ตนออกระงับเหตุโดยลำพัง ได้ตะโกนบอกคนร้ายว่าไม่ให้เข้ามา แต่คนร้ายก็ไม่ฟังและแสดงอาการไม่เกรงกลัว จึงใช้อาวุธปืนพกสั้นประจำกายยิงขึ้นฟ้า 1 นัด เพื่อยับยั้งคนร้าย คนร้ายก็ยังไม่ยอมหยุดพฤติกรรมแต่กลับเดินตรงเข้ามาใส่ จึงใช้อาวุธปืนยิงลงพื้นถนน กระสุนแฉลบถนนไปถูกที่น่องของคนร้าย
พ.ต.อ.ดิษยเดช กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของ ร.ต.ท.วินัย ถือว่ามีความกล้าและเด็ดเดี่ยวมาก สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง หากพลาดพลั้งคืนนั้นวันนี้ก็คงเสียชีวิตหรือบาดเจ็บพิการไปแล้วก็เป็นได้
แต่หลังจาก ร.ต.ท.วินัย เกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็กลายเป็นผู้ต้องหากระทำการประมาทเกินกว่าเหตุ ถูกเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนมากมาย ได้ไกล่เกลี่ยกันหลายครั้ง สุดท้ายก็ต้องจ่ายเงินเกือบแสนบาท ศาลตัดสินจำคุก 3 เดือน โทษจำรอ 1 ปี
พ.ต.อ.ดิษยเดช กล่าวยอมรับว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชาที่ออกปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะขณะเกิดเรื่อง ได้ถูกเรียกไปปฏิบัติหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 6 หลังกลับมาปฏิบัติหน้าที่ ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ตามเดิมแล้ว สิ่งที่ทำได้คือ การดูแลกัน พยายามปลอบใจ ให้กำลังใจกัน ขอให้ตำรวจเราได้เรียนรู้ จดจำไว้เป็นบทเรียน ปัญหาตำรวจมีได้ทุกเวลา
ที่มา – sanook