เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ติกรสำนักงานจังหวัดฉะเชิงเทรา แจ้งความดำเนินคดีฐานทำลายทรัพย์สินทางราชการกับหญิงแต่งกายคล้ายแม่ชี ที่คลุ้มคลั่งทุบกระถางดินเผาใส่ดอกไม้ธูปเทียนหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 บริเวณศาลากลางจังหวัด เราไปชมภาพกัน

หญิงศีรษะโล้น นุ่งขาวห่มขาวแต่งกายคล้ายแม่ชีคนนี้ แสดงอารมณ์เกรี้ยวโกรธ เพราะไม่พอใจที่เห็นพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทราเปรอะเปื้อนฝุ่นจับ ด้วยความโมโหเธอจึงทุบแล้วหยิบกระถางดินเผา สำหรับวางดอกไม้ และ ปักธูปบูชาทุ่มลงกับพื้นจนแตกเสียหายจากนั้นก็เดินหนีไป

ตำรวจพร้อมอาสาสมัครประจำศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทราเร่งติดตามหญิงแต่งกายคล้ายแม่ชีคนนี้ เธอตะโกนด่าทอทุกคนที่เข้าใกล้และพยายามก้าวลงไปเดินบนถนนที่มีรถสัญจรผ่าน เจ้าหน้าที่จึงต้องล้อมวงโอบเธอไว้เพื่อความปลอดภัย เมื่อถามว่ามาจากไหนเธอบอกว่าบวชเป็นแม่ชีอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา (วัดโสธรวรารามวรวิหาร) นอกจากนี้หญิงคนดังกล่าวยังแสดงความก้าวร้าว ใช้มือปัดกล้องถ่ายวีดีโอของผู้สื่อข่าว แล้วพยายามเอื้อมคว้าหยิบอาวุธปืนที่เอวของนายตำรวจถึง 2 ครั้ง รวมถึงนำกำไลข้อมือมาใช้เป็นอาวุธข่มขู่ทำร้ายตำรวจด้วย

จากนั้นหญิงรายนี้ก็เดินไปทุบกระจกรถตุ๊กตุ๊กที่จอดอยู่ริมถนน จนทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์แสดงความไม่พอใจ ทั้ง 2 ฝ่ายเปิดฉากปะทะคารมกัน หญิงนุ่งขาวห่มขาวเดินปรี่เข้าไปหาหญิงอีกคน ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจควบคุมตัวเธอใส่กุญแจมือ

แต่เหตุการณ์ไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะเมื่อตำรวจควบคุมตัวเธอขึ้นท้ายรถกระบะตราโล่ หญิงแต่งกายคล้ายแม่ชี ยังมีอารมณ์ฉุนเฉียว ปีนขึ้นไปนั่งขัดสมาธิบนหลังคารถตำรวจต้องคุมตัวลงมา เบื้องต้นเชื่อว่าเธอน่าจะมีอาการทางประสาทจึงส่งตัวให้จิตแพทย์วินิจฉัยอาการ

เจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดฉะเชิงเทราตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด พบว่ามีกระถางดินเผาสำหรับวางดอกไม้บูชาและกระถางดินเผาสำหรับปักธูปแตกเสียหายไปรวม 3 ใบ ส่วนเชิงปักเทียนบูชาได้รับความเสียหายเล็กน้อย ชาวบ้านที่ทราบข่าวนี้ระบุกระถางดินเผาบริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 เคยถูกทุบทำลายเสียหายมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว

เบื้องต้นนิติกรสำนักงานจังหวัดฉะเชิงเทรา แจ้งความตำรวจให้ดำเนินคดีข้อหาทำลายทรัพย์สินทางราชการกับหญิงนุ่งขาวห่มขาวรายนี้ แต่หากพบว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ติดต่อเครือญาติ เพื่อส่งตัวคนไข้เข้ารับการบำบัดรักษาต่อไป

ที่มา – news.ch7