หลายคนคงเคยตกอยู่ในสภาพนี้มาแล้ว คือ มีคนมาชอบหรือมีผู้มาจีบ เพราะเขาสนใจอะไรสักอย่าง (หรือหลายอย่าง) ในตัวคุณ ซึ่งตรงกับใจของคุณพอดี เพราะคุณเองก็ชอบเขาไม่น้อย แต่แทนที่จะตกลงสมัครรักใคร่เป็นแฟนกันเลย คุณกลับลังเลและเกิดไม่แน่ใจขึ้นมาว่า ควรเลือกเขามาเป็นแฟนดีไหม? อ้าว ไหงเป็นงั้นละ เพราะในเมื่อต่างฝ่ายต่างชอบพอกันอยู่แล้ว จึงไม่น่ามีปัญหาอะไรนี่
ที่จริง ปัญหาน่ะยังไม่มี จะมีก็แต่ “ความลังเล” และ “ไม่แน่ใจ” มากกว่า เนื่องจากกลัวว่า ขืนรักไป สุดท้ายแล้วอาจไปกันไม่รอดก็ได้ เพราะจะไปรู้ได้ไงละว่า การที่เขาเข้าหา, เข้ามาจีบคุณ เพราะ เขารักจริง หรือแค่อยากลอง, อยากจีบเล่นๆกันแน่? อีกอย่าง คนที่พลัดหลงเข้ามา ก็ไม่รู้ว่า เขามีแฟนแล้ว หรือยัง? เพราะบางคนแม้มีแฟนแล้วแต่เห็นขยันแจกขนมจีบซาลาเปามีออกถมเถ หากหลงกลหนุ่มเจ้าชู้ก็แย่สิยะ นี่คือคำถามยอดฮิต ที่สาวๆมักสงสัยหากมีชายหนุ่มเข้ามาทำดีกับเธอ
แต่ แต่ ความสงสัยไม่ได้หมดเท่านั้น ยังมีอีก เช่น เขาจะรักคุณคนเดียวหรือเปล่า? และจะเปลี่ยนใจไปจากเราเมื่อเวลาผ่านไปหรือไม่? ซึ่งอาการเป็นห่วงเป็นใยอย่างนี้ หากคิดอย่างเป็นกลางแล้ว ก็เป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของฝ่ายหญิงอ่ะนะ เพราะคงไม่มีสาวคนไหน อยากมีประสบการณ์รักๆ เลิกๆ กับผู้ชายมากหน้าหลายตาจนเกินไป แค่รักๆเลิกๆกับแฟนเก่าเพียงแค่ไม่กี่คนก็พอแล้ว ดังนั้น เวลาจะรักใคร สาวๆจึงใช้เวลากลั่นกรองกันพอสมควร แล้วก็ปล่อยให้ “เวลา” เป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงใจของเขากันต่อไป
อย่างไรก็ตาม เวลารักใครหรือจะคบใครเป็นแฟน บางทีก็ต้องเสี่ยงกันบ้าง เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร? และไม่มีใครรู้ว่า รักจะจบลงหรือเปล่า? ดังนั้น ถ้าไม่ลองแล้วจะไปรู้ได้ไงว่า จะรักกันได้นานแค่ไหน ถึงได้มีเสียงเปรียบเปรยให้ได้ยินไงว่า จะเลือกใครมาเป็นแฟนก็คล้ายการซื้อลอตเตอรี่ ที่เราไม่มีทางรู้หรอกว่า จะถูกรางวัลแจ็กพอต หรือว่าลงทุนไปแล้วกลับเสียเปล่าทั้งเพ แต่ถึงเป็นงี้หลายคนคงอยากเสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน เพราะถ้าเสี่ยงลองมีรักดู ก็ยังมีโอกาสถูกแจ็กพอตอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่เสี่ยงเลยก็หมดสิทธิ์ไป
ในเมื่อใครอยากลองเสี่ยงดวงกับความรัก ดังนั้นจึงมีโอกาส 50/50 และมีความเป็นไปได้อยู่ 2 อย่าง ได้แก่ ก. ได้เจอแฟนที่ดี ตามที่ปรารถนา หรือ ข. ได้เป็นแฟนกับไอ้เบื๊อก ห่วยแตก ที่คุณไม่น่าหลงกลไปเป็นแฟนกับคนอย่างนี้เล้ย ว่าแล้ว มี พฤติกรรมอะไรของเขาบ้างล่ะ ที่บ่งบอกว่า
คุณไม่น่าหลวมตัวเป็นแฟนกับคนแบบนี้?
1. หากคุณไม่สบาย ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ น้ำมูกไหล หรือเวียนหัวจนเป็นลม แต่เมื่อคุณเล่าให้เขาฟังว่า ไม่สบาย รู้สึก เป็น…(โรคอะไรก็ตามที่สันนิษฐานได้) ทว่า เขากลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่แนะนำให้ไปหาหมอ แถมไม่แนะให้ไปหายาทาน บอกแต่เพียงว่า ถ้ายังไม่ถึงขั้นเข้าห้อง ICU ก็อย่ามากวนใจ โอ้โหเหะ ในเมื่อไม่ได้ใส่ใจอะไรกันเลย แล้วจะทู่ซี้เป็นแฟนกันต่อไปไหวรื้อ เอ๊ะหรือว่า เวลาเขาป่วย คุณก็ใช้วิธีเฉยเมยเข้าใส่เพื่อให้เขารู้สึกซะก่อน แล้วค่อยตีตัวออกห่างล่ะ
2. เขาเป็นเกย์ มีรสนิยมทางเพศทางในทางชอบผู้ชายด้วยกัน แต่คุณไม่รู้มาก่อน เพราะเขาปิดบังซ่อนเร้น และคิดว่า คบคุณไว้เพื่อบังหน้าเท่านั้น วันๆจึงเอาแต่ขลุกอยู่กับเพื่อนผู้ชาย จนผิดสังเกต กระทั่งวันนึงความลับก็แตกดังโพละ แต่เอ…หากเป็นงี้ ถ้าเขาไม่ใช่คนเลวร้ายเกินไปก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้ต่อไป ดีซะอีก ผู้หญิงน่ะชอบมีเพื่อนเป็นเกย์จะตาย
3. ยามที่เขาหิว และออกไปเดินซื้อของมากิน เขาไม่เคยถามสักคำ ว่า คุณอยากได้อะไรหรือเปล่า หรือไม่ก็ เวลาชวนกันไปทานข้าว เขาเอาแต่พูดให้คุณลดความอ้วนอยู่นั่น แต่ตัวเขาเองกลับตั้งหน้า ตั้งตากิน ไม่เคยสนใจจะลดหุ่นที่ขยายขึ้นมาเพราะตัวเองกินจุเลยสักกะนิด แหม อย่างนี้ก็เห็นแก่ตัวเกินไป ประเภทอยากมีแฟนสวยหุ่นดีแต่ตัวเองเป็นไงก็ได้ ไม่แฟร์นะ
4. มีรายได้ไม่เคยพอใช้ และไม่ยอมปรับปรุงปรับตัวให้รับกับรายได้ที่น้อยด้วยการอยู่อย่างพอเพียงเลย หนำซ้ำถ้าวันไหนไม่มีเงิน ยังแบมือขอเงินจากคุณซะด้วย อื้อหือ…ถ้าสถานการณ์เป็นเพียงชั่วคราว เช่น เขาถูกเลย์ออฟ ก็ยังพออภัย แต่หากเขาเห็นคุณเป็นตู้เอทีเอ็มกดเมื่อไหร่ก็ได้เมื่อนั้น งั้นไสหัวเขาไปกดที่อื่นดีกว่าไหม? ความรักไม่ใช่การอดทนของคนเพียงคนเดียวนะยะ อีกอย่า ถ้าติดการพนันยิ่งควรเดินคนละทาง
5. ตอนแรกรักก็ไม่เคยมองว่า คุณเป็นฝ่ายผิด…ในกรณีเกิดทะเลาะกันขึ้นมาหรือมีความขัดแย้งกัน แต่ทำมั้ย ระยะหลังๆมานี้ เขากลับคิดว่า ตัวเองเป็นฝ่ายถูกและคุณผิดตลอด ซะได้ เช่น ถ้าเขาแสดงความเจ้าชู้ออกมา พอคุณจับได้ เขาก็หาว่า คุณนั่นแหละเป็นต้นเหตุทำให้เขาเป็นแบบนี้ โดยอ้างไปเรื่อยว่า เพราะคุณไม่สวย และไม่มีเสน่ห์พอที่จะมัดใจเขาไว้ได้ เขาจึงต้องดิ้นรนไปหาของสวยๆงามๆ อู้ย เอาอะไรคิดเนี่ย งั้นดีแล้วไปเลย จะได้สิ้นสุดกันที แฟนอย่างนี้จะรั้งเอาไว้ทำไม?
by TVPOOL ONLINE