เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

         เปลี่ยนความเชื่อกันใหม่เล็กๆน้อยๆนะคะ
เจ๊จะมาบอกข้อมูลใหม่ที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อคร่า
เพราะผลวิจัยได้ออกมาแล้วว่าทานอะไรได้ผลอย่างไรบ้าง เพื่ออัพเดทสุขภาพ
ตัวเราเอง มาดูกันว่าข้อมูลใหม่ๆ เหล่านี้ รู้กันหรือยังเอ่ย
?
 

ช็อกโกแลตสูตรใหม่…ไม่อ้วน!
      ช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ทั้งหลายเตรียมเฮกันได้
เพราะทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอร์ริก ประเทศอังกฤษ พบว่าในการทำช็อกโกแลต
ความหวานของส้ม แอปเปิล และแครนเบอร์รี ใช้แทนน้ำตาลและส่วนผสมไขมันสูงต่างๆ เช่น
นม เนย และโกโก้ได้ โดยไม่ทำให้ความอร่อย ความหวาน และสัมผัสที่นุ่มลิ้นลดลง
เพียงแค่มีกลิ่นหอมของผลไม้เจืออยู่อ่อนๆ เท่านั้น
ดังนั้นทุกคนสามารถกินช็อกโกแลตสูตรนี้ได้วันละ 5 แท่ง หรือ 285
กรัม โดยไม่ต้องกลัวไขมันพุ่งปรี๊ดกันเลย

ตะไคร้ยับยั้งมะเร็งลำไส้
      แม้ไม่อยากเชื่อแต่เมื่อเป็นข่าวดีและมีงานวิจัยรองรับก็คงไม่เสียหายที่จะเชื่อ
เพราะการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า
ตะไคร้สกัดสามารถยับยั้งอาการเริ่มแรกที่นำไปสู่โรคมะเร็งลำไส้ การเกิดรูในลำไส้
และการผิดเพี้ยนของดีเอ็นเอได้ ตะไคร้สกัดสามารถลดอาการผิดปกติในลำไส้ได้มากกว่า 60
เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจมีผลยับยั้งการทำงานของเอนไซม์แบคทีเรียในลำไส้
ทำให้ร่างกายดูดซึมสารก่อมะเร็งน้อยลง

ไวน์แดงกระตุ้นเซ็กซ์
      งานวิจัยพบว่าคนที่ดื่มไวน์แดง 1-2
แก้วต่อวัน
สร้างความประทับใจให้เพศตรงข้ามได้ดีกว่าคนที่ชอบดื่มเหล้าหรือเบียร์
ในแง่สุขภาพไวน์แดงยังช่วยสลายไขมันในเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศดีขึ้น
แถมไวน์แดงยังช่วยป้องกันเกล็ดเลือดแข็งตัว บำรุงหัวใจ และทำให้อายุยืน
อย่างไรก็ตาม ถึงประโยชน์จะมากขนาดไหนก็ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ
ไม่เช่นนั้นจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี

ลดเกลือลดกรน
      ผลการทดลองในบราซิลพบว่า
การกินอาหารที่มีส่วนผสมของเกลือในปริมาณน้อย
ช่วยลดอาการกรนหรือหยุดหายใจชั่วคราวระหว่างหลับได้
แต่การกินเกลือมากเกินไปทำให้ร่างกายสร้างของเหลวขึ้นมา
เมื่อนอนราบของเหลวจะเคลื่อนตัวไปอยู่บริเวณช่องคอ
ทำให้ทางเดินหายใจตอนบนแคบลงกระทั่งอาจหยุดหายใจชั่วขณะ และยังเกิดโรคร้ายตามมาได้
เช่น ความดันสูงและโรคหัวใจ

กินเต้าหู้มากเสี่ยงความจำเสื่อม
      ผลวิจัยในอังกฤษพบว่า การกินเต้าหู้มากกว่าวันละครั้งมีส่วนทำให้ความจำแย่ลง
โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัย 68 ปีขึ้นไป เต้าหู้เต็มไปด้วยสาร “ไฟโตเอสโทรเจน”
ซึ่งให้ผลเช่นเดียวกับ “เอสโทรเจน” หรือฮอร์โมนเพศหญิง
ผลวิจัยพบว่าถ้าร่างกายได้รับสารไฟโตเอสโทรเจนมากเกินไป
อาจเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคความจำเสื่อมสอดคล้องกับผลวิจัยก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า
ผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป หากได้รับเอสโทรเจนมากเกินไป
ก็อาจเสี่ยงที่จะเป็นโรคความจำเสื่อมเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

พริกป่น-แซ่บแบบมีคุณค่า
      ถ้ากินพริกสดไม่หมด
เอามาทำพริกป่นกันเถอะ!
เพราะพริกป่นมีสารช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งโดยไม่ทำลายเซลล์ดีในร่างกาย
สำหรับคนที่ต้องนั่งหรือยืนทำงานนานๆ
พริกป่นจะช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อหลังได้ นอกจากนี้ยังมีสารที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการทำความสะอาดตัวเองของร่างกาย
จึงเหมือนได้ดีท็อกซ์ไปในตัว

เรียบเรียง
Chilly Tv pool

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online