สถานการณ์แบบไหนที่ทำให้คุณต้องสตอเบอรี่

    คนสวยรวยน้ำใจอย่างคุณไม่ชอบถูกหลอกและไม่อยากหลอกใคร แต่ไม่รู้ทำไมพอนับๆดูแล้ว คุณโกหกบ่อยเหลือเกิน  อะไรมาดลใจหรือใครบังคับ มาหาคำตอบกันเลยค่ะ

   วิธีคำนวณ เอาเฉพาะเลขคู่ในวันเดือนปีเกิดของคุณมาบวกกัน แล้วหารด้วยสอง จะได้ผลลัพท์ที่ต้องการ แต่ถ้าผลลัพท์ออกมาเป็นเลขสองตัว  ก็จับเจ้าสองตัวนั่นบวกกันอีกทีจนกว่าจะได้เลขตัวเดียว 

เช่น เกิดวันที่ 2  เมษายน พ.ศ 2536  = 2 + 4 + 2+6  = 14 หารสอง  = 7 อ่านคำทำนายหมายเลข 7

 แต่ถ้าวันหรือเดือนเกิดของคุณไม่มีเลขคู่เลย ก็ให้ข้ามไป เอาเลขจากพ.ศ มาบวกกันแทน โดยไม่ต้องหาร และถ้าคุณเกิดมาแบบเฮงสุดๆ  คือทั้งวันเดือนปีเกิดมีเลขคู่แค่ตัวเดียว ก็ให้เอาเลขนั้นไปอ่านคำทำนายได้เลย โดยไม่ต้องหาร

    คุณพร้อมจะเล่นบทน้องแหลทันที ถ้าต้องเข้าไปมีเอี่ยวเวลาเพื่อนเขาทะเลาะกัน  เพราะในสถานการณ์แบบนี้จะเข้าข้างใครก็ต้องเสียเพื่อนทั้งนั้น คุณเลยต้องเลื้อยไปเรื่อยๆ เจอคนไหนก็เข้าข้างไว้ก่อน  แล้วค่อยหาโอกาสไกล่เกลี่ยในภายหลัง  ที่จริงที่คุณทำไปก็เพราะรักเพื่อน ไม่อยากถูกเพื่อนโกรธ แต่วิธีนี้ไม่ค่อยดีเท่าไรหรอกนะ เพราะถ้าโชคร้ายเพื่อนๆไม่เข้าใจ  เขาก็อาจจะคิดว่าคุณเป็นนกสองหัว แล้วพาลโกรธคุณกันทั้งคู่ ทีนี้คุณก็ต้องครองตำแหน่งสุนัขศีรษะเน่าอยู่คนเดียว น่าสงสารจัง 

   คุณไม่เคยคิดเลย ว่าในชีวิตจะไปรักผู้ชายคนเดียวกับเพื่อน แต่ถ้าโชคชะตาฟ้าลิขิตให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาจริงๆ คุณก็พร้อมจะโกหกได้เสมอ เพื่อช่วงชิงหัวใจหนุ่มคนนั้น เช่น  ถ้าหนุ่มเป้าหมายดันมาชอบเพื่อนคุณ คุณก็จะกระหน่ำให้ข้อมูลเชิงลบ ให้เขาคิดว่าเพื่อนคุณเป็นนางมาร หรือไม่ก็หลอกว่าเพื่อนมีแฟนแล้ว เขาจะได้หันมามองคนโสดหัวใจยังว่างอย่างคุณแทน แต่ถ้าคุณดันไปรักแฟนเพื่อน ความสามารถในการสะตอของคุณจะเพิ่มพูนถึงขั้นสุดยอด สามารถยุแยงตะแคงรั่วให้คนรักเขาผิดใจกัน โดยไม่มีใครสงสัยมือที่สามอย่างคุณเลย ความเก่งของหนูขั้นเทพก็จริง แต่เรื่องนิสัยยังต้องปรับปรุงนะจ๊ะ เคยได้ยินไหมที่เขาว่ากรรมติดจรวดน่ะ ยุแหย่เขามากๆระวังจะถูกเลื่อยขาเตียงเข้าบ้าง แล้วจะรู้สึก

   คุณเป็นคนมีความคิดของตัวเอง เป็นตัวของตัวเองสูง แต่ไม่รู้ทำไมพวกผู้ใหญ่ใกล้ตัว ถึงชอบมาบังคับให้คุณคิดเหมือนตัวเองกันนัก บังเอิญคุณชอบจิบยาแก้ไอชวนป๋วยปี่แป่ก่อเสียด้วยสิ เลยต้องทำตัวเป็นลูกหลานกตัญญู เออออตามไป ทั้งๆที่ในใจค้านหัวชนฝา  และพอลับหลังผู้ใหญ่แล้ว คุณก็ไม่ทำตามที่ท่านสั่ง   แถมยังแหกกรอบไปแก่นเซี้ยวเปรี้ยวซ่าในทางตรงกันข้ามด้วย  ถึงการกระทำของคุณจะเหมือนกับสตอเบอรี่ แกล้งทำเป็นเด็กดีหลอกคนแก่  แต่เรื่องมันจำเป็นจริงๆ  เพราะถ้าที่บ้านรู้ว่าเด็กสมัยใหม่อย่างคุณมีความคิดอย่างไร คุณคงถูกคุมตัวให้อยู่ในสายตาพี่ป้าน้าอาทุกฝีก้าว ไม่ได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันแน่ๆเลย 

   คุณเจอพิษเพื่อนรักชอบชักดาบมาเยอะมาก จนเข็ดกับการให้เพื่อนยืมข้าวของเงินทองแล้ว  เมื่อก่อนคุณมองโลกด้วยสายตาไร้เดียงสา ว่าเงินทอง เสื้อผ้า เครื่องประดับ (ยกเว้นแฟน)เป็นของนอกกาย หวงมากๆตายไปจะกลายเปรต คุณก็เลยยอมให้เพื่อนยืมอย่างชิลชิล แต่ยายเพื่อนขี้ยืมนี่สิ ที่แท้หล่อนเป็นมนุษย์ต่างดาว พอได้ของแล้วก็เหาะกลับยานแม่หายจ้อยไปเลย  เจอกันกี่ทีๆก็บอกแต่ว่า”ลืมเอามา” “เดี๋ยวคราวหน้าเอามาคืนนะ” หรือบางคนก็ค้อนขวับ ส่งรังสีอำมหิตออกมาสกัดดาวรุ่ง จนคุณต้องถอยทัพด้วยความเกรงใจ(และกลัวตาย) เจอแบบนี้บ่อยๆเข้า  คุณก็จำต้องกินสตอเบอรี่แทนข้าว พอเพื่อนทำท่าจะยืมของ คุณจะรีบแหลไว้ก่อน “อุ๊ย! ลืมเอามา” “หมาที่บ้านกัดรองเท้าคู่นั้นพังไปแล้ว” “ เดือนนี้ชั้นก็จนเหมือนกัน เธอมีให้ชั้นยืมสักสองพันมั้ยล่ะ”  เพื่อปกป้องให้สมบัติวัตถุทั้งหลายอยู่เป็นคู่ดูโอกับคุณไปนานๆ 

   คุณเป็นคนรักหน้ามากๆ ไม่ใช่ว่าบ้าเดินเข้าคลินิกรักษาสิวให้หน้าใสนะ แต่รักหน้าไม่อยากให้มันแตก  เวลามีเรื่องที่ทำให้คุณเสียหน้า คุณก็เลยยอมไม่ได้ ต้องรีบสร้างเรื่องเหลือเชื่อขึ้นมากลบเกลื่อน เช่นถูกแฟนปล่อยให้รอสองชั่วโมง คุณก็ ”แฟนชั้นซุ่มซ่ามขับรถไปชนคนอื่น เลยต้องรอประกัน”  ถ้าถูกนายเรียกไปว่า “ เจ้านายไม่ได้เรียกชั้นว่าย่ะ ชั้นขอเข้าพบเพื่ออธิบายความจริงเอง” เสื้อตัวสวยที่คุณโม้ว่าราคาพันแปด มีเพื่อนไปซื้อมาใส่บ้างในราคา 199 “ โอ๊ย! เดี๋ยวนี้เขาก๊อปกันเยอะแยะ ของชั้นของแท้จริงๆ รับรอง” การสะตอของคุณจึงไม่ได้ทำไปเพื่อให้เพื่อนเข้าใจผิด แค่แหลเพื่อไม่ให้เพื่อนๆเข้าใจถูกเท่านั้นเอง ฮ่าฮ่า!

   คุณเกิดมาเพื่อช็อป แต่อีตอนเกิดดันลืมคาบช้อนเงินช้อนทองมาด้วย เลยต้องจนทั้งปี ทีนี้พอเข้าไปยืนน้ำลายหกดูเสื้อผ้ารองเท้าสวยๆ แถมยังไปลองใส่เดินโชว์ทั้งร้านแล้ว  คนขายเขาก็ต้องคิดว่าคุณซื้อแน่ๆ คุณก็เลยไม่มีทางเลือก นอกจากจะปั้นน้ำเป็นตัวเอาตัวรอดไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ถูกเชือดหมกหลังร้าน  เช่น “ เสือ้ตัวนี้ที่บ้านมีแล้ว แต่คนละสีค่ะ” “กระเป๋าตังค์หายไปไหน ชั้นถูกล้วงกระเป๋าค่า!!” อะไรอย่างนี้เป็นต้น แล้วก็ชิ่งออกจากร้านด่วนจี๋สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก แทบจะทุกวันฝนตกกับวันแดดออก เพราะสาวนักช็อปอย่างคุณห้ามใจไม่ให้เดินดูของไม่ได้เสียด้วยสิ  

    ปกติคุณเป็นคนใจซื่อถือความสัตย์ ยกเว้นแต่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ช้ำๆอย่างเช่นอกหัก ถูกชายทิ้ง หรือไปปิ๊งใครแล้วเขาทำเมิน นั่นละ สตอเบอรี่จะขายดิบขายดีขึ้นมาทันที เพราะคุณไม่ชอบให้เพื่อนๆมาทำท่าเวทนาสงสาร หรือเอาคุณไปเม้าท์ซะเละเป็นโจ๊ก ทำนอง อกหักจนโทรมเหมือนซอมบี้… ชั้นว่าแล้วว่าต้องเลิกกัน … ไม่เจียมตัวอาจเอื้อมไปจีบหนุ่มหล่อเลี่ยมทอง เชอะ!  ฯลฯ ถึงแม้ทุกอย่างที่ขาเม้าท์เมี้ยนมาจะเป็นความจริง แต่เพื่อศักดิศรีคุณก็ขอขี้จุ๊เบ่เบ๋ไว้ก่อน แล้วค่อยกลับไปตีอกชกหัวเผาพริกเผาเกลือ แช่งหนุ่มตาถั่วที่ทิ้งคุณทีหลัง ที่จริงการโกหกของคุณจัดเป็นภาคบังคับ คนอกหักเขาก็ทำกันทั้งโลกละ  ไม่ถือว่าเป็นความผิดหรอก

   คุณเป็นคนขี้เหงา อยู่คนเดียวแล้วจะขาดใจ ความรักของคุณจึงทุ่มไปที่เพื่อนๆจนหมด จนไม่อยากให้เพื่อนเห็นว่าคุณเป็นยายเฉิ่ม ไม่ทันกระแส  ฉะนั้นเวลาเพื่อนๆเขาชวนกันไปทำเรื่องห่วยๆที่คุณไม่เห็นด้วย  อย่างแย่งแฟนชาวบ้าน  กินเหล้าเมากระจาย  ซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ทั้งๆที่ไม่มีเงิน คุณจึงไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากจะต้องยกเมฆ หาเหตุจำเป็นสุดขีดมาอ้าง ที่จริงคุณก็รู้ว่านะเพื่อนกลุ่มนี้ไม่เหมาะกับคุณเลย ถึงจะเลิกคบไปก็ไม่น่าเสียดาย  แต่คุณยังหาเพื่อนใหม่ที่นิสัยไฉไวกว่านี้ไม่ได้นี่สิ  แถมโรคขี้เหงาก็กำเริบสามเวลาหลังอาหาร  เลยต้องแหลแต่เช้าไว้ก่อน ด้วยประการฉะนี้

    สาวมั่นอย่างคุณถูกสอนให้ยืนบนลำแข้งของตัวเอง คุณก็เลยไม่ง้อใคร ไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร  จนกลายเป็นนิสัยฝังลึก  เวลาเจอเรื่องคับขันที่แก้ปัญหาเองไม่ได้ แทนที่จะขอให้เพื่อนช่วย คุณเลยใช้วิธีโกหกเอาตัวรอดแทน  ถึงแม้ว่าการโกหกในวันนี้จะทำให้มีปัญหาตามมาในวันหน้า แต่คุณก็ยอม  เพราะจะให้ไปอ้าปากร้องเรียกใครให้มาช่วยนั้น  คุณทำไม่ได้จริงๆ