#1 หลวงพระบาง
เมืองเก่าทางตอนเหนือของลาวแห่งนี้เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ขนาบด้วยแม่น้ำคานและแม่น้ำโขง มีทั้งวัดวาอารามเก่าแก่และบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างสไตล์โคโลเนียลมากมาย สมกับที่ยูเนสโกจัดให้เป็นมรดกโลกเมื่อปีพ.ศ. 2538 มีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น พระราชวังหลวงพระบางที่งดงามลงตัวด้วยศิลปะยุคอาณานิคมและศิลปะแบบล้านช้าง วัดวิชุนราช วัดเชียงของ น้ำตกตาดกวางสี และประเพณีตักบาตรข้าวเหนียว
#2 วังเวียง
วังเวียงเป็นสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติยอดฮิตของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่นี่ได้ชื่อว่า “กุ้ยหลินเมืองลาว” ข้อดีคือตัวเมืองมีขนาดเล็กมากและภูมิประเทศเป็นทิวเขาหินปูนน้อยใหญ่ซ้อนตัวไปมา มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์และมีแม่น้ำซองไหลผ่าน ทำให้ได้สัมผัสความสดชื่นของธรรมชาติและความเป็นชนบทอย่างแท้จริง ด้วยความที่วังเวียงอยู่ห่างจากเวียงจันทน์ 150 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจึงนิยมใช้เป็นจุดแวะพักในการเดินทางระหว่างเวียงจันทน์กับหลวงพระบาง นอกจากมาพักผ่อนและสนุกกับกิจกรรมอย่างกระโดดน้ำสีฟ้าที่บลูลากูน ล่องห่วงยางบนแม่น้ำซองแล้ว เมืองเล็กๆ แห่งนี้ยังทำให้ผู้มาเยือนมีโอกาสสัมผัสวิถีชีวิตชาวลาวเผ่าต่างๆ อย่างชิดใกล้อีกด้วย และเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจากฝั่งตะวันตกมาเยือนวังเวียงเยอะมาก ที่นี่จึงมีครบทั้งที่พัก บริษัทนำเที่ยว ร้านอาหาร และร้านอินเตอร์เน็ต เรียกว่าจิ๋วแต่แจ๋วครบเครื่องจริงๆ
#3 สี่พันดอน
มหานทีสี่พันดอน ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่าสี่พันเกาะ เป็นสุดยอดความงดงามและยิ่งใหญ่แห่งแม่น้ำโขงทางลาวตอนใต้ ณ ห้วงมหานทีสี่พันดอนแห่งนี้เขาว่ากันว่าหันไปทางไหนก็มีแต่น้ำกับเกาะ นอกจากบรรยากาศและธรรมชาติจะดีต่อใจแล้ว ยังเปี่ยมล้ำด้วยคุณค่าทางอารยธรรมแห่งลุ่มน้ำโขง ชาวบ้านยังคงดำรงชีวิตแบบชาวชนบท สงบ เรียบง่าย โดยประกอบอาชีพประมงเป็นส่วนใหญ่ สี่พันดอนมีเกาะหลัก 3 แห่ง คือ ดอนคง (มีขนาดใหญ่ที่สุด) ดอนคอน และดอนเด็ด (มีที่พักบริการนักท่องเที่ยว) ใครชอบเที่ยวชมหมู่เกาะต้องมาล่องแม่โขงชมมหานทีสี่พันดอนให้ได้ และอย่าลืมแวะเที่ยวน้ำตกหลี่ผีและน้ำตกคอนพะเพ็งอันลือชื่อด้วย
#4 เวียงไซ
เปลี่ยนอารมณ์มาเที่ยวแนวประวัติศาสตร์กันบ้าง สถานที่แนะนำแห่งสุดท้ายคือเวียงไซในแขวงหัวพัน เมืองที่นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย ยอมบากบั่นเดินทางไกลมาให้ถึง “ถ้ำผู้นำ” เพื่อชมร่องรอยประวัติศาสตร์สมัยสงครามอินโดจีนในถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ที่ดูภายนอกก็ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีไม่ต่างจากถ้ำทั่วไป แต่ภายในกลับถูกขุดเจาะสร้างเป็นที่อยู่อาศัยที่รองรับคนได้ประมาณ 20,000 คน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทั้งห้องพัก ห้องประชุม โรงเรียน โรงพยาบาล ห้องหลบภัย โรงภาพยนตร์ ฯลฯ ถ้ำพวกนี้ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยยุคคอมมิวนิสต์ที่กองทัพอเมริกันเวียนมาทิ้งระเบิดแถวนี้อยู่ 9 ปี โดยบรรดาแกนนำทหารคอมมิวนิสต์ลาวเขาก็ได้เข้าไปอาศัยหลบภัยใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำนี่ล่ะ ในบริเวณเมืองเวียงไซมีถ้ำแบบนี้อยู่ถึง 12 แห่ง แต่เปิดให้เข้าชมได้เพียง 6 ถ้ำเท่านั้น เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ไม่พลุกพล่าน ชาวบ้านมีวิถีชีวิตเนิบช้า และนอกจากจะอบอวลด้วยกลิ่นไอของความกล้าหาญเสียสละของคนในอดีตแล้ว เวียงไซยังจัดว่ามีความสวยงามใช่เล่นอีกด้วย แหม! แบบนี้ไม่ไปให้ถึงก็เสียดายแย่เลยนะ
ที่มา : travel.kapook.com