กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือยังระบุว่า ความเคลื่อนไหวของกองทัพสหรัฐฯดังกล่าว แสดงถึงการกระทำอย่างบุ่มบ่ามวู่วามเพื่อเตรียมรุกรานเกาหลีเหนือ ทั้งยังแสดงว่าเจตนาของสหรัฐฯ ที่ต้องการโจมตีเกาหลีเหนือนั้นมาถึงขั้นที่รุนแรงจริงจังแล้ว
“เราจะให้สหรัฐฯต้องรับผิดชอบต่อหายนะที่จะตามมาทั้งหมด ซึ่งก็เป็นผลจากการกระทำเลวร้ายของสหรัฐฯเอง เหตุการณ์นี้พิสูจน์ว่าเราทำถูกต้องแล้วที่พัฒนาศักยภาพทางนิวเคลียร์เพื่อป้องกันตนเอง หรือเพื่อโจมตีป้องกันไว้ก่อน” กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าว
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือกำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีการทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ ซึ่งขัดต่อมติของสหประชาชาติที่ห้ามเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธหรือพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์โดยเด็ดขาด โดยสหรัฐฯมีความกังวลว่าเกาหลีเหนือใกล้จะพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปที่ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้สำเร็จ ซึ่งขีปนาวุธดังกล่าวสามารถยิงโจมตีไปถึงดินแดนบางส่วนของสหรัฐฯได้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศว่า จะเดินหน้าจัดการกับปัญหาเกาหลีเหนือไปเพียงฝ่ายเดียว หากจีนไม่ยอมช่วยกดดันเกาหลีเหนือให้ยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐฯมีคำสั่งให้กองเรือโจมตี คาร์ล วินสัน เคลื่อนไปประจำการบริเวณคาบสมุทรเกาหลี ตามมาตรการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุรุนแรงจากการโจมตีของเกาหลีเหนือ โดยกองเรือโจมตีดังกล่าว ประกอบด้วยเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน เรือพิฆาตสองลำที่สามารถยิงทำลายขีปนาวุธด้วยระบบนำวิถี และเรือบรรทุกเครื่องยิงขีปนาวุธนำวิถีอีกลำหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ กองเรือดังกล่าวมีกำหนดไปประจำการที่ออสเตรเลีย แต่ได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนเส้นทางเสียก่อน ขณะกำลังเตรียมเดินทางออกจากท่าเรือที่สิงคโปร์
CR. – AFP , bbc.com
by TVPOOL ONLINE

