เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันนี้ทางทีมงานได้ติดตามกรณีที่มีผู้เสียหายกว่า 1,500 คน ซึ่งซื้อทัวร์มาจากบริษัท เวลท์เอเวอร์ (WealthEver) ถูกลอยแพที่บริเวณผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณตั้งแต่ Premium Area จาก Row A จนกระทั่ง Row H/J ของการบินไทย
หลังจากจ่ายเงินค่าทัวร์ไปประมาณ 15,000 – 20,000 บาท เพื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบเช่าเหมาลำ แต่พบว่าไม่มีรายชื่อผู้โดยสาร อีกทั้งประธานกรรมการบริษัท เวลท์เอเวอร์ ชินแสโชกุน หายตัวไป มีแต่คลิปเสียงระบุว่า ขอประกาศยกเลิกโปรโมชั่นการเที่ยวญี่ปุ่นทุกคน อ้างว่าถูกรวมตัวกันไปแจ้งความ
หรือไปลงชื่อทำให้เกิดสถานการณ์ความวุ่นวาย แล้วมีผลในการที่ไม่สามารถนำเครื่องบินมาได้

ทาง สคบ. ยันบริษัท “เวลท์เอเวอร์” ไม่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจขายตรง และไม่สามารถนำธุรกิจนำเที่ยวมาเป็นธุรกิจขายตรงได้ พบจดทะเบียนเมื่อ 25 ม.ค. ที่นครสวรรค์ ระบุนำเข้า-ส่งออก น้ำดื่ม ชา กาแฟ แถม “พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ” เคยเปลี่ยนชื่อจากเดิม “ศรัณย์พัชร์ กิติขจรพัชร์”
ก่อเรื่องกับบริษัททัวร์ย่านทวีวัฒนาเมื่อปี 57 ปลอมแปลงเอกสารการจองตั๋วเครื่องบินหลอกลวงลูกค้า แต่เอาผิดไม่ได้

กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ในขณะนี้ กรณีสมาชิกของบริษัทแห่งหนึ่ง ซื้อทัวร์และเดินทางด้วยเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำเพื่อไปท่องเที่ยวยังประเทศญี่ปุ่น
ระหว่างวันที่ 11 ถึง 16 เมษายน 2560 ในราคาคนละ 13,130 บาท และได้จ่ายเงินซื้อทัวร์ ดังกล่าวไปแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาเดินทาง ปรากฏว่าไม่มีเที่ยวบินเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ทำให้กลุ่มสมาชิกที่ซื้อทัวร์ตกค้างที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นจำนวนมาก และจากกรณีดังกล่าว มีการกล่าวอ้างว่าบริษัท
ได้จดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงกับทาง สคบ. นั้น

กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ขอชี้แจงว่า จากการตรวจสอบทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรง ไม่พบว่าบริษัทดังกล่าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจขายตรงจาก สคบ. แต่อย่างใด
อีกทั้งการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการนำเที่ยว ต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ซึ่งนายทะเบียนตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ไม่สามารถรับจดทะเบียนให้ประกอบธุรกิจขายตรงได้

 

โดยเมื่อวานนี้เฟสบุ๊ค “Wealthever for life” ที่ขณะนี้ได้ทำการปิดเฟสบุ๊คไปเรียบร้อยแล้ว ได้ออกมาทำการโพสท์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยใช้ชื่อผู้โพสท์ว่า “ซินแส โชกุน” และมีข้อความที่โพสท์ดังต่อไปนี้…

“การที่คุณรวมตัวกันไปแจ้งความ ทำให้เราไม่สามารถนำเครื่องเหมาลำจากที่โน่นมาได้”
“ทำให้สถานะการณ์ตอนนี้ ผมขอยกเลิก ทริป 11-15 เมษายน มีผลทันที ”
“ผมต้องขอออกตัว และให้คุณสลายตัวทันที
เราไม่เคยมีการขายทริปทัวร์ เราเป็นบริษัท ที่พาคุณไปเที่ยว
การที่คุณไปแจ้งความ ทำให้เกิดความเสียหาย”
ซินแส โชกุน 11/04/2560 22.15 น.

 

และเฟสบุ๊คส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า “jangjeesoon” ออกมาทำการโพสท์ข้อมูล และเตือนภัยทุกคนเกี่ยวกับบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “ซินแส โชกุน” ว่าเป็นบุคคลที่ชอบต้มตุ๋นชาวบ้าน…

 

เตือนภัยพี่น้องปลาไหลที่ชอบเที่ยวต่างประเทศ หรือในประเทศ โดยมีตั๋วราคาถูกเป็นที่จูงใจ เนื่องจากมีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นบริษัททัวร์ พร้อมขายตั๋วเครื่องบินราคาถูก (ของสายการบินแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเสียง) มีผู้เสียหายมากมาย ที่จ่ายเงินพอถึงวันเดินทางแล้วตั๋วไม่ออก
และมีผู้ร่วมลงทุนขายตั๋ว หาลูกค้า ต้องติดหนี้สินเพราะรับเงินลูกค้าแล้วจ่ายให้ คนที่ชื่อน.ส. ศรัณย์พัชร กิติขจรพัชน์ (เป็นทอม) (ตอนนี้เปลี่ยนชื่อนามสกุล เป็น น.ส. ภวิศ ภูริภัทร์เมฆินทร์ )หนึ่งในขบวนการมิจฉาชีพ) แต่วันออกเดินทางตั๋วกลับถูกยกเลิก
ทำให้ผู้เสียหายหลายลาย ต้องเสียเงินฟรี บางคนเป็นหนี้เพราะต้องนำเงินตัวเองไปซื้อตั๋วราคาจริงให้กับลูกค้า (โคตรแมน) (มีเพื่อนเราเป็นหนึ่งในนั้นที่โดนหลอก เพราะความไว้ใจ)
เข้าไปอ่านดูได้งับ สำหรับบริษัททัวร์โกงตั๋วนั้น ชื่อบริษัท Crystal Phoenix Smart Tour https://www.facebook.com/pages/Crystal-Phoenix-Smart-Tour/500526803355073?fref=nf
* * * ข้อมูลพร้อมผู้เสียหายที่ตั้งเพจ ของนักต้มตุ๋นที่ชื่อ น.ส. ศรัณย์พัชร กิติขจรพัชน์ (เป็นทอม) (ตอนนี้เปลี่ยนชื่อนามสกุล เป็น น.ส. ภวิศ ภูริภัทร์เมฆินทร์ https://www.facebook.com/Helltourrrr?ref=hl&hc_location=ufi
* * * ขอให้เพื่อนๆ โปรดระวังเรื่องหลอกขายตั๋วราคาถูก ท่านสามารถเช็คสถานะท่านได้ว่าชื่ออยู่ในระบบและมีการจองตั๋วจริง ได้ Booking code แต่ทุกอย่างจะอยู่ในระบบประมาณไม่เกิน 10 วันก่อนออกเดินทาง หากท่านไม่มีการชำระเงินค่าตั๋วทั้งหมด (หรือจ่ายแค่มัดจำ หรือไม่จ่ายเลย) พอถึงเวลากำหนดจ่ายไม่มีการจ่ายเงินจริงระบบ จะตัดท่านออกจากการจองตั๋วทันที
นั่นทำไมถึงแปลกใจกันว่า มีชื่อในระบบจริงๆ (หลอกให้เราเชื่อ) แต่ถึงเวลาตั๋วไม่ออก * * * ก็เพราะว่า คนรับเงินไปไม่ได้เอาเงินไปจ่ายค่าตั๋วตามกำหนดระยะเวลาที่ทางสายการบินตั้งไว้ ชื่อท่านเลยเด้งงงงงออกไงคร๊าบบ
* * * ยังไง พี่น้องต้องระวังกันไว้มากๆ นะงับตรวจสอบ และถามข้อมูลไปทางสายการบินให้ละเอียดว่ามีโปรแบบนี้จริงรึป่าว
ปล. ไม่ว่าจะใครหรือบริษัทไหน ก็ขอให้พี่น้องระวังไว้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะคนใกล้ตัว (เพื่อนหรือคนสนิท) ที่เราอาจไว้ใจโดยไม่ได้ระแวง

 

 

โดยเมื่อวันที่ (11 เม.ย.) ที่ผ่านมา ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ได้มีคนไทยที่ซื้อทัวร์ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับบริษัททัวร์แห่งหนึ่งมารวมตัวกันเพื่อเตรียมบินจำนวนกว่า 1,000 คน โดยระบุว่าทัวร์นี้ราคา 9,730-13,000 บาท บินในวันที่ 11-16 เมษายน 2560
แต่ไม่มีเลขไฟลท์บิน เนื่องจากเป็นการเหมาลำสายการบินชื่อดัง ทั้งนี้ในขณะนี้ได้มีคนเข้ามาคอมเมนต์รายงานสถานการณ์สด ๆ ในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ว่าตอนนี้ที่สถานบินสุวรรณภูมิมีคนเดินทางมาเยอะมาก จำนวนกว่า 1,000 คน เต็มสนามบินไปหมด หลังทางบริษัทนัดเวลาไว้ช่วง 19.30 น. และได้มีพนักงานการท่าฯ และตำรวจท่องเที่ยวเข้ามาดูแลแล้ว ขณะนี้ได้พาคนบางส่วนขึ้นมาที่ชั้น 2 เพื่อที่จะได้ไม่เกะกะผู้โดยสารคนอื่น
ขณะที่ทางบริษัททัวร์ดังกล่าวส่งไลน์มาบอกว่ามั่นใจได้ ไม่โกง แต่ยังไม่เดินทางมาแต่อย่างใด ในขณะที่ทางการท่า ระบุว่า หากบินจริงต่อให้เป็นการเช่าเหมาลำ ก็ต้องมีไฟลท์ อย่างไรก็ตามทางตำรวจท่องเที่ยว ประกาศให้แจ้งสามารถแจ้งความได้แล้ว

ด้านนางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบแล้ว ผู้โดยสารทุกท่านจ่ายเงินค่าทัวร์ไปประมาณ 15,000 บาท เพื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น โดยที่ไม่มีตั๋วเดินทางกับทุกสายการ
โดยผู้โดยสารท่านอ้างว่า เดินทางกับการบินไทยและสายการเจแปนแอร์ไลน์ จากการตรวจสอบกับหนังสือเดินทางของผู้โดยสารบางส่วน ไม่เป็นผู้โดยสารของ การบินไทย หรือ เจแปนแอร์ไลน์ โดยเที่ยวบินการบินไทย หรือ เจแปนแอร์ไลน์ ขณะนี้เต็มทุกเที่ยวบิน โดย ได้ประสานกับหน่วยงานความมั่นคง
นำผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าว ไปพักรอชั้น 2 และชั้นใต้ดิน เพราะรอหัวหน้าทัวร์และแจ้งความตามลำดับ เบื้องต้น เข้าใจว่า เป็นแชร์ท่องเที่ยวแบบลูกโซ่ จากการให้การของผู้โดยสารและเพื่อนที่จะเดินทางอีก จะมีประมาณ 2,000 ท่านในวันพรุ่งนี้เช้า

ด้าน “พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 สั่งการให้ ตำรวจ สภ.สุวรรณภูมิ เร่งสอบสวนรับแจ้งความ พร้อมจัดหารถบัส เตรียมส่งผู้เสียหายทั้งหมด โดยยอมรับว่าเป็นการฉ้อโกงครั้งใหญ่ที่สุด ได้สั่งระดมพนักงานสอบสวนกว่า 20 นาย เดินทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ รับคำร้องทุกข์ของผู้เสียหาย
ส่วนการสืบสวนสอบสวนพฤติการณ์ความผิดเบื้องต้นฐานฉ้อโกงประชาชน หากรวบรวมพยานหลักฐานครบจ่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงครั้งนี้ในวันนี้

และล่าสุด “บริษัท การบินไทย” ได้ออกมาแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีมีกลุ่มผู้โดยสารถูกลอยแพจาก บริษัททัวร์ “Wealthever For Life” โดยมีเนื้อหาดังนี้…

การบินไทยยืนยันไม่มีบริษัททัวร์ติดต่อเช่าเหมาลำไปญี่ปุ่นช่วงนี้

ตามที่เกิดกรณีมีกลุ่มผู้โดยสารที่เป็นสมาชิกขายตรงสินค้าประเภทอาหารเสริมจำนวนมาก ไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นโดยออกเดินทางในช่วงวันที่ 11-12 เมษายน 2560 โดยมีการแอบอ้างว่าผู้โดยสารบางส่วนจะได้เดินทางไปกับการบินไทยนั้น

นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขอยืนยันว่าบริษัทฯ ไม่เคยได้รับการติดต่อประสานงาน หรือมีการจองบัตรโดยสารล่วงหน้าเป็นหมู่คณะหรือติดต่อขอเช่าเหมาลำจากบริษัททัวร์ใดๆ เพื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นในช่วงดังกล่าว และบริษัทฯ
มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีนี้แต่อย่างใด ดังนั้น จึงขอให้ผู้โดยสารโปรดระมัดระวังอย่าได้หลงเชื่อการแอบอ้างใดๆ และหากมีผู้นำชื่อบริษัทการบินไทยฯ ไปแอบอ้าง และทำให้บริษัทฯ เสียหายหรือเสื่อมเสียชื่อเสียง บริษัทฯ จะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้แอบอ้างต่อไป

ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบการสำรองที่นั่งของท่านได้ทางเว็บไซต์ thaiairways.com หรือที่ THAI Contact Center โทร.02-356-1111 ตลอด 24