เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีที่คนร้ายก่อเหตุข่มขืน ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) วัย14 ปี ในพื้นที่อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี จนมารดาต้องพาเข้าแจ้งความตั้งแต่เดือน พ.ย. 59 ที่ผ่านมา แต่คดีไม่คืบหน้า จนต้องเผยแพร่เรื่องราวผ่านทางโลกออนไลน์ กระทั่งจับกุมนายประมวล หรือไก่ ขันชาทะ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาไว้ได้ ก่อนที่มารดาจะระบุว่า ยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหลายคน ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้เพิ่มอีกสองราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 20 เม.ย. พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีจับกุมผู้ต้องหาว่า ตนได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อเข้าไปค้นหาความจริงทั้งหมด พร้อมได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน จนได้รับทราบว่ามีการกระทำผิดทั้งหมด 4 สถานที่ คือ 1.มีบุคคลสองคน นำตัวนำด.ญ.เอไปข่มขืนในป่าละเมาะ 2.มีบุคคลสามคนรุมข่มขืนน้องเอในร้านเกมส์ ส่วนคนในร้านอื่นๆ เป็นแต่เพียงพยาน และเจ้าของร้านเกมส์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง 3.บ้านนายไก่ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และ 4.การนำด.ญ.เอ มาค้าประเวณีในโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยที่เจ้าของโรงแรมไม่ทราบเรื่อง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นการเข้าข่ายการกระทำค้ามนุษย์ ที่นำบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องได้รับการคุ้มครองไปทำเรื่องดังกล่าว

ส่วนการที่มีข่าวว่า ก่อนหน้านี้ น้องเอให้การว่าถูกข่มขืนคนเดียว จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้น เมื่อตนสอบถามแล้ว ด.ญ.เอก็ยินดีเล่าเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งทำไปด้วยความจำยอมทั้งหมด แต่ขณะนั้นอาจจะให้การเช่นนั้นด้วยความอับอายที่ตัวเองถูกกระทำ ส่วนเรื่องที่มีคนนำตัวน้องเอไปค้าประเวณีให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่นั้น ตอนนี้หลักฐานยังไม่แน่ชัดว่าเป็นข้าราชการอะไร แต่เป็นคนพื้นที่แน่นอน ตนขอตรวจพยานหลักฐานเพิ่มเติมเสียก่อน และขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำงานตามกระแส โดยหลังจากนี้ ในกระบวนการเยียวยาผู้เสียหายตามพ.ร.บ.ป้องกันการค้ามนุษย์ ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) จะยื่นมือให้ความช่วยเหลือ ให้เหยื่อเห็นว่า “สังคมไม่ละทิ้ง” ด้านปคม.เอง ก็จะหาตัวผู้กระทำตามพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่สามารถชี้ชัดต่อไปจนกว่าจะสิ้นข้อสงสัยแน่นอน ทั้งนี้ หลังจากการแถลงข่าว ทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน คือ น.ส.ปวีณ์สุดา ขันชาทะ หรือ แก้ม อายุ 20 ปี น้องสาวของนายไก่ ผู้ต้องหาที่จับได้ก่อนหน้านี้และ นายธนพัตร แสนคำ หรือ “เจ๊บีม” สาวประเภทสอง วัย 30 ปี ซึ่งเป็นคนที่จัดหาลูกค้าที่ซื้อบริการเด็กหญิงไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก อีกด้วย

ด้าน น.ส.แก้ม  กล่าวว่า ไม่ได้รู้จักน้องเอเป็นการส่วนตัว แต่มีน้องๆ ที่กินเที่ยวด้วยกันพามาให้ ซึ่งน้องเอมาหาที่บ้านจึงพาไปเที่ยว จนตอนเย็นน้องเอบอกว่าไม่มีเงินกลับบ้าน ตนเลยโทรหาเจ๊บีมซึ่งน้องคงจะต้องสมยอมมาเอง ส่วนตนทำเช่นนี้เป็นครั้งแรก เป็นคนคิดเองทั้งหมด โดยที่ครอบครัวไม่รู้เรื่องด้วย

ทั้งนี้ น.ส.แก้ม ยังกล่าวพร้อมน้ำตาด้วยว่า “รู้สึกเครียดมาก เป็นครั้งแรกที่ทำแบบนี้ จะจำเป็นบทเรียน ซึ่งที่ทำไปทั้งหมดเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่คิดว่าจะเดือดร้อนขนาดนี้ ก็ต้องขอโทษทั้งแม่ และตัวน้องเอด้วย”

ส่วน “เจ๊บีม” ระบุว่า ตนรู้จักกับ น.ส.แก้ม ซึ่งได้บอกว่ามีเพื่อนพามาให้และขอค่ารถ ตนจึงนำไปส่งให้บุคคลท่านหนึ่งซึ่งไม่เคยถามชื่อ เป็นคนที่ได้เบอร์มาจากเพื่อนอีกที แต่ขอไม่ตอบว่าก่อนหน้านี้บุคคลดังกล่าวเคยติดต่อใช้บริการหรือไม่ เนื่องจากตนไม่ได้พาเด็กๆ ส่งไปบริการเป็นประจำ แต่ทำเพียงครั้งคราวเท่านั้น โดยได้ส่วนแบ่งครั้งละ 500 บาท และคิดว่าดีกว่าการให้คนอื่นยืมเงิน ซึ่งที่ผ่านมา ตนก็ไม่ได้หาเด็กอายุน้อยขนาดนี้ ส่วนการที่โซเชียลบอกว่าตนเป็นเอเย่นต์ใหญ่ในด่านช้างนั้น เป็นแต่เพียงการเรียกด้วยความนับถือในวงการเที่ยวจึงยกให้เป็นเจ๊เท่านั้น

“ต้องขอโทษทุกคนด้วย รู้ว่าทำผิด แต่ ณ ตอนนั้นมันเป็นเรื่องล่อตาล่อใจ หลังจากนี้จะไม่ทำอีก และขอฝากให้ทุกคนมีสติในการทำสิ่งต่างๆด้วย”.เจ๊บีมกล่าว

ที่มา – เดลินิวส์

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online