จนท.พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบวิหารวัดมงคลวนาราม เชียงใหม่ เพื่อหาสาเหตุหลังถูกไฟไหม้หนัก แต่ต้องตะลึงเมื่อพบพระพุทธชินราช ที่เป็นพระประธาน และพระโมคคัลลานะ ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
จากกรณีเมื่อเช้าตรู่วันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้วิหารวัดมงคลวนาราม หรือ วัดป่าแดด อยู่ใกล้สี่แยกป่าแดด ถนนเชียงใหม่– ลำปาง หมู่ 1 ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำทำการดับกว่า 30 นาที เพลิงจึงสงบ ปรากฏว่าวิหารเสียหายหนักทั้งหลัง ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันที่ 24 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพร้อมคณะกรรมวัดได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ วิหารวัดมงคลวนาราม ที่ถูกไหไหม้ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด แต่ทุกคนก็ต้องตะลึงแม้ไฟไหม้หนักภายในวิหารสร้างความเสียหายทั้งหมด แต่พระพุทธชินราช ที่เป็นพระประธาน กับพระโมคคัลลานะ กับไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างวิพากษ์วิจารณ์ในความศักดิ์สิทธิ์กันไปทั่ว
พ.ต.อ.ฐานันดร วิทยาวุฑฒิกุล ผกก.พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นนั้นพบว่าหลังคาของวิหารถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด ส่วนเรื่องของระบบไฟฟ้าด้านในก็ถูกเพลิงไหม้เสียหาย รวมถึงโต๊ะหมู่บูชาด้านในด้วย ดังนั้นจึงได้เก็บหลักฐานที่น่าจะเกี่ยวข้องมาทำการตรวจสอบเพิ่มเติม แต่จากการสันนิษฐานเบื้องต้น คือ เกี่ยวข้องกับวัตถุติดไฟ อาจจะเป็นการจุดธูปเทียนทิ้งไว้ เพราะเป็นช่วงที่มีการทำวัตรเช้า และหลังจากพระออกไปได้ไม่นานก็เกิดเพลิงไหม้ หรืออาจจะเกิดมาจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งขณะนี้ต้องขอเวลาตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติมก่อน
ด้านนายวรเดช เต็มดี กำนันตำบลสารภี กล่าวว่า จากการสำรวจในวิหารทรัพย์สินเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้ถูกไฟเผาไหม้ทั้งหมด รวมถึงโครงสร้างตัวอาคาร ซึ่งทางวิศวกรจะได้เข้ามาตรวจสอบและบูรณะต่อไป ส่วนแนวทางการช่วยเหลือนั้นทางคณะสงฆ์และผู้เกี่ยวข้อง ทั้งพระ กรรมการวัด คณะศรัทธาเตรียมประชุมหารือในการบูรณะซ่อมแซมใหม่อีกครั้งโดยเร็ว
ที่มา – เดลินิวส์