อันยองฮาเซโย ! วันนี้ก็มีหนังดีๆ มาแนะนำกันอีกเช่นเคย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้แนะนำหนังญี่ปุ่น หนังอินเดีย หนังธรรมะ รวมไปถึงหนังอีโรติกกันไปแล้ว มาคราวนี้ถึงเวลาของบรรดาโอปป้าที่จะออกมาเฉิดฉายรัศมีกันบ้างแล้วกับ 10 หนังเกาหลี ที่คุณไม่ควรพลาดชม ต้องยอมรับจริงๆ ว่าทุกวันนี้แวดวงอุตสาหกรรมหนังเกาหลีขยายฐานความนิยมคืบคลานไปทั่วโลกจริงๆ และตัวหนังเกาหลีเองก็ไม่ได้มีแต่เรื่องราวความรักของหนุ่มสาวเพียงเท่านั้น แต่มีเนื้อหาครอบคลุมประเด็นต่างๆ อย่างน่าสนใจ แถมยังยกระดับทั้งในด้านบทภาพยนตร์และเทคนิคการดำเนินเรื่อง จนขยายความนิยมยึดครองพื้นที่หัวใจแฟนๆ ทั่วโลก ส่วนจะมีเรื่องไหนบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย…เราจัดมาให้ครบทุกแนวเต็มอรรถรสแน่นอน อ้อ ! แต่บางเรื่องมันอาจจะเสียน้ำตาหน่อยๆ นะ
1. Peppermint Candy (1999)
เปิดกันด้วยหนังปี 1999 ที่ดำเนินเรื่องอย่างน่าสนใจกับพล็อตเรื่องชวนติดตาม ซึ่งเปิดฉากด้วยการฆ่าตัวตายของชายหนุ่ม ‘ยองโฮ’ สำหรับหนังเรื่องนี้ใช้เทคนิคการตัดต่อย้อนกลับคล้ายกับสไตล์หนัง Memento ของคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่เล่าย้อนชีวิตในรอบ 20 ปีของตัวเอง เพื่อบอกถึงสาเหตุที่สะสมมาจนทำให้เขาตัดสินใจฆ่าตัวตาย รวมไปถึงประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับทัศนคติต่อความรักของตัวเอก ซึ่งหลายๆ เหตุการณ์ในชีวิตของเขาถูกถ่ายทอดออกมาได้เจ็บปวดเหลือเกิน หนังเรื่องนี้ส่งผลให้พระเอก ‘โซล คยอง กู’ โด่งดังเป็นพลุแตก ขึ้นเวทีรับรางวัลกันทั้งปีเลยทีเดียว
2. Joint Security Area (2000)
หนังเรื่องนี้มีชื่อภาษาไทยเท่ๆ ว่า ‘สงครามเกียรติยศ มิตรภาพเหนือพรมแดน’ หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ JSA แค่ชื่อก็คงดึงดูดบรรดาชายหนุ่มสายหนังฮาร์ดคอร์แล้ว เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเขตพรมแดนระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ เมื่อวันหนึ่งพบศพทหารเกาหลีเหนือ 2 นายเสียชีวิต ทางการทั้ง 2 ประเทศจึงต้องส่งตัวแทนมาสืบสวนหาสาเหตุ โดยมี ‘โซฟี อี.จีน’ หรือ ลี ยองเอ (คนไทยรู้จักในนาม แดจังกึม) ทำหน้าที่สอบสวน หนังได้สะท้อนประเด็นค่อนข้างละเอียดอ่อนเกี่ยวกับความมั่นคงของทั้งสองประเทศ ขณะเดียวกันภายในใจลึกๆ แล้ว ทหารทั้ง 2 เขตแดนต่างล้วนตระหนักดีว่าแม้จะแยกประเทศ แต่พวกเขาก็เคยเป็นเพื่อนร่วมชาติกันมาก่อน
3. My Sassy Girl (2001)
หนังโรแมนติก-คอมเมดี้ขึ้นหิ้งของเกาหลีที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง จนฝั่งฮอลลีวู้ดต้องซื้อลิขสิทธิ์นำไปสร้างต่อ และเป็นหนังที่แจ้งเกิดให้กับนางเอกสาว ‘จวน จีฮุน’ เรื่องราวของหนุ่ม ‘คยอนฮู’ ที่บังเอิญพบกับหญิงสาวขี้เมาในสถานีรถไฟใต้ดิน เขาต้องช่วยเหลือหญิงสาวที่ไม่ได้สติ แต่หลังจากนั้นสาวจอมแสบคนนี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในชีวิตเขา จนค่อยๆ เกิดเป็นความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งคู่ขึ้นมา เชื่อว่าคนดูต้องหลงรักในความจริงใจและใสซื่อของตัวละครพระเอก และเชื่อว่าเป็นหนังที่ทำให้แฟนหนังหลายๆ คนอดน้ำตาซึมไม่ได้อีกด้วย
4. Memories of Murder (2003)
แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ได้มีโอปป้าหน้าตาชวนหลงใหลหรือนางเอกใสๆมาเป็นแม่เหล็กเรียกผู้ชม แต่กลับเป็นหนังที่ชนะใจคนดูได้ด้วยตัวบทและฝีมือของนักแสดง ถือเป็นหนังที่สร้างรายได้สูงในประเทศเกาหลี โดยเล่าถึงกลุ่มนักสืบกลุ่มหนึ่งที่ต้องทำหน้าที่หาตัวฆาตกรจากคดีฆาตกรรมหญิงสาวในคืนฝนตก ซึ่งเหตุการณ์ในหนังมีการอ้างอิงเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นในยุค 80s รับรองว่าคุณจะสนุกไปกับการตามติดวิธีสืบสวนหาเบาะแสของเหล่านักสืบ รวมไปฉากต่างๆ ที่ทำออกมาได้สมจริง ทำให้ผู้ชมอินและอยากติดตามเรื่องนี้ได้ไม่ยาก
5. Oldboy (2003)
หนังเกาหลีเรื่องดังที่ประสบความสำเร็จสูงอีกเรื่องที่คอหนังไม่ควรพลาด แถมยังเคยสร้างเสียงฮือฮาในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์มาแล้ว เด่นด้วยบท เทคนิคการใช้มุมกล้อง และการเล่าเรื่องที่ให้มิติตัวละครในแบบที่สมเหตุสมผล หนังเล่าเรื่องของชายคนหนึ่งที่ถูกจับไปขังไว้โดยไม่ทราบสาเหตุเป็นเวลาถึง 15 ปี แน่นอนว่าเมื่อเป็นอิสระชายคนนี้จึงออกไล่ล่าเบื้องหลังรวมถึงสาเหตุของความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับเขา นับว่าหนังเรื่อง Oldboy ทำให้ผู้กำกับอย่าง ‘ปาร์ค ชาน-วุค’ ขึ้นแท่นผู้กำกับแถวหน้าของเกาหลีใต้เลยทีเดียว
6. Tae Guk Gi: The Brotherhood of War (2004)
หนังดราม่าสงครามเรื่องเยี่ยมที่มีเรื่องราวความสัมพันธ์ของพี่น้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เมื่อสองพี่น้องได้ถูกคัดเลือกให้ไปร่วมรบในสงคราม พี่ชายได้เดินทางไปตามน้องชายกลับหลังจากทราบว่าแต่ละบ้านควรมีเพียงคนเดียวที่จำเป็นต้องเข้ารายงานตัวเป็นทหารรบ แต่ทว่าเส้นทางบนสนามรบทำให้ผู้เป็นพี่ชายซึ่งมีความบ้าเลือดอยู่แล้วได้พบชื่อเสียง ทำให้ตัวน้องชายเองเกิดความเคลือบแคลงใจในตัวพี่ชาย ผู้ชมก็ต่างลุ้นไปกับเรื่องราวมิตรภาพของทั้งสองพี่น้องท่ามกลางสนามรบอันดุเดือด ต้องยอมรับว่าเป็นหนังสงครามที่ทำออกมาได้สมจริง ได้เห็นทั้งความดิบเถื่อนของสงครามและความเปราะบางของมนุษย์ในคราวเดียวกัน
7. Midnight FM (2010)
ยุคสมัยนี้ใครๆ ก็อยากที่จะเป็นคนโด่งดังไม่ว่าจะเป็นฮีโร่ของสังคมหรือเน็ตไอดอลในโลกออนไลน์ แต่จะขอแนะนำให้รู้จักกับหนังเรื่อง Midnight FM ที่ฟังชื่อเหมือนจะเป็นหนังชิคๆ แต่กลับเป็นหนังจิตวิทยาที่สะท้อนภาวะสังคมในยุคปัจจุบันที่ทุกคนมักทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินความดีความชั่วของผู้อื่นเพียงผิวเผิน หนังเล่าเรื่องของดีเจเจ้าของรายการวิทยุคนหนึ่งที่เตรียมจัดรายการเป็นคืนสุดท้ายก่อนที่จะพาลูกสาวเดินทางไปรักษาอาการป่วยที่สหรัฐฯ แต่จู่ๆ กลับได้รับสายมรณะจากชายปริศนาคนหนึ่งที่ขู่จะฆ่าลูกสาวและน้องสาวของเธอ หากไม่ยอมเล่นเพลงตามที่ขอ โดยตัวฆาตกรเผยว่าตัวเขานั้นเป็นคนที่แอนตี้พวกฮีโร่ทั้งหลาย งานนี้รับรองสนุกแน่นอน
8. Architecture 101 (2012)
มาถึงคราวหนังรักใสๆ ที่วัยรุ่นเกาหลีใต้ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองบ้าง เชื่อว่าหลายคนอาจจะสะดุดตากับชื่อเท่ๆ ของหนัง ซึ่งเป็นชื่อและรหัสของรายวิชาสถาปัตยกรรมพื้นฐานที่คู่พระนางได้ลงเรียนด้วยกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัยนั่นเอง โดยที่พระเอกเป็นนักศึกษาสาขาสถาปัตยกรรมและได้ปิ๊งรักสาวสาขาดนตรี ทั้งสองสนิทกันมากขึ้น แต่ฝ่ายพระเอกก็ไม่กล้าเปิดเผยความในใจ จนกระทั่งแยกย้ายกัน ต่อมาหลังจากนั้น 15 ปีทั้งคู่ได้โคจรมาพบกันอีกครั้ง นางเอกได้มาขอให้พระเอกหนุ่มที่ทำงานสถาปนิกออกแบบบ้านให้เธอ การค่อยๆ เริ่มก่ออิฐสร้างบ้านทีละก้อนกลับรื้อฝุ่นแห่งความทรงจำของทั้งคู่ให้ฟุ้งกระจายอีกครั้ง
9. Miracle in Cell No. 7 (2013)
โอยย…เป็นหนังเรื่องที่ทำให้น้ำตาไหลรินเสื้อเปียกท่วมตัว แม้จะเก๊กเข้มแข็งแค่ไหน ก็ต้องแพ้ใจให้เรื่องนี้จริงๆ และเชื่อว่าเป็นหนังซึ้งๆ อันดับต้นๆ ในดวงใจของหลายๆ คน หนังเล่าเรื่องของ ‘ยงกู’ ชายพิการทางสมองคนหนึ่ง ที่มีเหตุให้ต้องพลัดพรากกับลูกสาวสุดน่ารักวัย 6 ขวบ เพราะถูกจับเข้าห้องขังเป็นแพะรับบาปในคดีฆาตกรรม แต่ภายในห้องขังหมายเลข 7 เรื่องราวความสดใสก็เกิดขึ้นเมื่อการถูกจำกัดอิสรภาพของผู้เป็นพ่อในครั้งนี้ไม่สามารถขวางกั้นสายสัมพันธ์ที่แสนบริสุทธิ์ของพ่อ-ลูกได้ หนังแสดงให้เห็นถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ของพ่อ ขณะเดียวกันก็มีประเด็นเสียดสีกฎหมายของเกาหลีด้วย ดูจบรับรองว่าหลายๆ คนคงอยากจะเดินเข้าไปกอดพ่อให้แน่นๆ แน่นอน
10. Train to Busan (2016)
ปิดท้ายกันด้วยหนังฟอร์มดีที่เพิ่งสร้างเสียงฮือฮาให้แฟนหนังชาวไทยไปเมื่อปีที่แล้ว จนหลายๆคนแซวว่าหนังเรื่องนี้คือหนังฮอลลีวู้ดปลอมตัวมาใช่ไหม ! อีกทั้งยังเป็นหนังที่ทำให้พระเอกหนุ่ม ‘กงยู’ ขึ้นแท่นผู้ชายอบอุ่นตลอดกาลและสามีแห่งทวีปเอเชียอีกด้วย แม้หลายๆ คนจะบอกว่าหนังซอมบี้มันมาสุดทางแล้ว ประเด็นเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา แต่หนังกลับแสวงหาทางออกที่น่าจดจำให้แฟนหนัง ด้วยการดำเนินเรื่องที่สนุกสนาน ขบขันและชวนซึ้งไปในเวลาเดียวกัน หนังเล่าเรื่องของ ‘ซอกวู’ ที่โดยสารรถไฟจากกรุงโซลเพื่อไปส่งลูกสาวให้กับอดีตภรรยาที่เมืองปูซาน แต่ระหว่างทางกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อมนุษย์ติดเชื้อค่อยๆ กลายร่างเป็นซอมบี้ ผู้โดยสารในขบวนจึงต้องเอาชีวิตรอดกันทุกวิถีทาง
หนังเกาหลีทั้ง 10 เรื่องนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของลิสต์หนังนับพันนับหมื่นเรื่องของแดนกิมจิ แต่ก็หวังว่าหนังเหล่านี้อาจเป็นการเปิดประตูไปสู่ประสบการณ์การดูหนังเกาหลีของคุณได้ หากเพื่อนๆ มีหนังโปรดในดวงใจเรื่องไหน ก็สามารถคอมเม้นท์แนะนำได้เลยน้า !
by TVPOOL ONLINE