เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ซี้ดกันเป็นแถว เมื่อหนุ่มสไตล์โอปป้าเกาหลี “นัททิว-ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม” ลุกขึ้นมา สลัดผ้าโชว์ซิกส์แพ็คและหุ่นเฟิร์มขึ้นปกนิตยสารหัวหนึ่ง ทำเอาสาวๆและเก้งกวางอยากจะงาบกันเป็นแถว หลังจากที่เจ้าตัวซุ่มเงียบไปพักใหญ่ จนออกมาโชว์ของดี งานนี้จะถึงขั้นรับงานเซ็กซี่เป็นหนุ่มเซ็กซี่คนใหม่รึเปล่า ไปถามจากปากเจ้าตัวด่วนๆ ว่ามีของดีก็ต้องเอาออกมาโชว์ชิมิ!
ล่าสุดไปถ่ายแบบโชว์ซิกส์แพ็คขึ้นปกนิตยสารหัวหนึ่ง แฟนๆ ฮือฮามาก ทำไมถึงไปถ่ายล่ะ


“อ๋อ..คือต้องเล่าว่ามันเป็นนิตยสารปกสุด ท้ายแล้ว แต่ว่าก่อนหน้านี้เราได้รับการติดต่อมาก่อนหน้านี้แล้วให้ถ่ายเล่มนี้ แล้วเรามีปกที่วางไว้แล้วว่าถ้าถ่ายจะได้ขึ้นปกเดือนไหน คือตั้งแต่ตอนนั้นมาเลยผมก็ได้ฟิตหุ่นมาโดยตลอด เข้ายิมบ่อยมาก ถ้าหลายๆ คนติดตามไอจีก็น่าจะเห็นว่าเราเข้ายิมบ่อยขึ้นเยอะ แล้วสรุปสุดท้ายพอเล่มนี้เป็นเล่มสุดท้ายปุ๊บเค้าก็ไล่ติดต่อคนที่เคยดิวๆ กันไว้ว่า ให้รวมพลเลย 33 คนชายหนุ่ม ก็เลยได้ไปถ่ายล่าสุดมา รูปก็จะอยู่ในเซ็ทข้างในครับ แต่ปกจะเป็นณเดชน์”
แอบเสียดายมั้ยที่เราพลาดไม่ได้ขึ้นปก
“เสียดายสิ เพราะว่าเราก็ฟิตหุ่นมาเพื่อการนี้ แล้วมันเหมือนกับการใฝ่ฝันที่ผู้ชายออกกำลังกายคนนึง ดูแลหุ่นขนาดนี้ เราก็อยากให้ทุกคนได้เห็นว่าเราทุ่มเทขนาดไหน ซึ่งถ้าได้ขึ้นปกก็เหมือนฝันเลยนะ แต่ว่าในเมื่อเราไม่ได้มีโอกาสตรงนั้น แต่ว่าเราก็ยังได้ถ่ายข้างใน แต่สรุปสุดท้ายในสื่อโซเชียลมันก็มีรูปเราที่เหมือนขึ้นปก ก็โอ.เค.”
    ตอนที่รูปเราถูกปล่อยออกมา ฟีดแบ็คจากแฟนๆ และคนรอบข้างว่ายังไงบ้าง
“ฟีดแบ็คดีครับ (หัวเราะ) คืออย่างถ้าคนทำ งานด้วยกัน พี่ผู้จัดการ หรือเพื่อนๆนักแสดงที่อยู่ด้วยกัน เค้าจะรู้ว่าเราฟิตอยู่แล้ว แต่ว่ามันจะมีบางคนที่อาจจะไม่นึกไม่ฝันจริงๆ อย่างเพื่อนมหาลัย คือนึกภาพตอนผมเรียนมหาลัยยังผอมๆ อยู่เลยตอนนั้น แล้วอยู่ดีๆ วันนี้ขึ้นปกแบบนี้ มีไหล่ มีแขน มีอกแบบนี้ เค้าก็เลยพิมพ์กันเข้ามาในไลน์ว่ายังไงล่ะเนี่ย ไม่รู้ซี้ดมั้ย (หัวเราะ)”
   กลัวคนจะติดภาพลักษณ์ของเราไปในทางที่เซ็กซี่ไปเลยมั้ย
“อันนี้ถามว่ากลัวมั้ย มันไม่ใช่เรื่องต้องกลัวหรอก เพียงแต่ว่าตัวผมเองก็ต้องดูแลภาพที่นำเสนอออกไปให้ดีที่สุด เหมือนมันเป็นหน้าที่ของเราด้วย แล้วก็เรามีพี่ๆ ผู้จัดการและเพื่อนๆ นักแสดงที่ช่วยกันฟีดแบคอยู่แล้วว่า ประมาณนี้กำลังดีนะ ประมาณนี้มากไปมั้ย เพราะฉะนั้นเราก็สามารถควบคุมภาพลักษณ์เราได้ เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่กลัวว่าภาพลักษณ์จะดูเซ็ก ซี่มั้ย เพราะว่าเราเชื่อว่า เรื่องของภาพลักษณ์เป็นเรื่องที่เราสามารถจัดการได้”
 มีหนังสือเล่มไหนติดต่อมาอีกบ้าง
“เล่มอื่นตอนนี้ยังไม่มีนะ แต่ผมก็หวังว่าเล่มนี้มันจะทำให้มี (หัวเราะ) เพราะว่าผมก็รู้สึกว่าเราก็ฟิตหุ่นแล้วอ่ะ อยากโชว์ครับผม”
   แสดงว่าเราก็มีความคิดที่อยากจะถ่ายแบบทำ นองนี้เหมือนกัน
“ใช่ คือจริงๆ ผมไม่ติดไง ไม่มีปัญหา คือเมื่อก่อนตอนหุ่นเราไม่พร้อมก็รู้สึกว่า เรายังไม่ดี แต่ตอนนี้เราฟิตแล้วก็ถ่ายได้แล้วก็มั่นใจมากขึ้นแล้ว”
 แล้วถ้ามีติดต่อให้เราถ่ายเซ็กซี่ทำนองใส่กาง เกงในตัวเดียว เราจะรับมั้ย
“อ๋อไม่ครับ คืออยากให้ดูสปอร์ตๆ คือตอนนี้ในหัวไม่มีกางเกงใน ไม่มีกางเกงว่ายน้ำเลยครับที่รู้สึกว่าอยากจะถ่าย ถ้าเป็นช่วงบนถอดได้ครับเพราะว่าเราก็เฟิร์มมา แต่ว่าถ้าเป็นกางเกงว่ายน้ำผมอาจจะรู้สึกว่ามันมากไปหน่อย”
หลังๆ มาทางฟิตออกกำลังกายและงานแสดงซะส่วนใหญ่ แล้วงานเพลงล่ะ
“งานเพลงก็ต้องยอมรับว่าเราก็ดร็อปไป แต่การดร็อปมันไม่ใช่การหยุดนะ เราแค่เว้นวรรคเฉยๆ เพราะว่าเรามีโปรเจ็คท์อื่นที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการแสดงหรือว่าช่วงนี้ก็มีงานแฟชั่นด้วยด้วย พอมันเข้ามาเราก็ต้องรับผิดชอบ แต่ว่างานเพลงเราก็ไม่ทิ้งอยู่แล้ว เพราะว่าเราก็ชอบ ก็คิดว่าภายในปีนี้ยังไงก็ตาม ก็อยากจะลองแต่งเพลงเอง ทำเพลงเองด้วย”


    แต่เราไม่ได้มีค่ายแล้ว

“แต่ผมมีที่ปรึกษาที่ดีเยอะ เพราะว่าการที่เราทำเพลงมาตอนมีค่าย มันก็มีคอนเน็คชั่นเรื่องครู โปร ดิวเซอร์ คนคุมร้อง เพื่อนๆ หรือว่าตอนนี้เรื่องของภาพก็มี เพราะว่าตอนนี้เราก็มาอยู่ในสังกัดนักแสดงที่มีนักแสดงเก่งๆ หลายคน ในเรื่องของภาพเราก็ช่วยกันได้ ช่วยให้คำปรึกษากันได้ว่าถ้าจะทำมิวสิควิดีโอจะทำยังไงดีแบบนี้ จริงๆผมว่ามันไม่ลำบากเลย”
   แต่ในปัจจุบันวงการธุรกิจเพลง แข่งขันกันสูงมาก เรากลัวจะสู้เค้าไม่ได้รึเปล่า หรือทำออกมาไม่เปรี้ยง
“อ๋อ.. ผมไม่เคยนึกเรื่องนั้นอยู่แล้ว คือตั้งแต่ไหนแต่ไรทำงานเพลง มันทำเพราะว่าสนองแพสชั่นตัวเอง ว่าเราหลงใหลอยากร้องเพลงเป็นของตัวเอง มันคือสิ่งที่มีค่า เพราะฉะนั้นเวลาเราทำไปเนี่ยมันจะดังมากดังน้อย หรือคนได้ฟังมากฟังน้อย มันคือความภาคภูมิใจอยู่ดี เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะทำโดยที่ไม่มีค่ายเพลง เหนื่อยยาก แล้วเราจะต้องคิดมากขึ้นมั้ย ผมก็ตอบเลยว่าไม่  เพราะว่าอยากทำก็คือทำ แล้วก็ทำให้ดีที่สุด”
    แนวเพลงที่จะทำยังเหมือนเดิมมั้ย
“จริงๆ ผมอยากลองแหวกออกไปบ้าง คือดนตรีมันอาจจะต้องหนักขึ้น แล้ววิธีการร้องอาจจะต้องเปลี่ยนบ้าง เพื่อว่ามันจะได้มีความหลากหลาย”


   แล้วงานแสดงล่ะ
“งานแสดงตอนนี้จริงๆ แล้วผมยังไม่มีละครทีวี  แต่ว่ายังโฟกัสละครเวทีเรื่องนี้ ‘ขอพบในฝัน สุนทราภรณ์ เดอะมิวสิคัล’ แล้วเดี๋ยวจะมีรายการประกวดร้องเพลง ‘Sing you face off Season 3’ ซึ่งผมเป็นผู้เข้าแข่งขันในนั้น แล้วก็หลายคนก็บอกมามากเหลือเกิน ว่าถ้ารับรายการนี้จะต้องทุ่มเทครับ เพราะฉะนั้นผมก็เลยรู้สึกว่าต้องทุ่มเทค่อนข้างเยอะ ก็ดูรุ่นพี่บ้าง เพราะว่าซีซั่นก่อนๆ ก็มีเพื่อนอย่าง ‘ทับทิม’ หรือว่า ‘เกรซ’ ที่ได้มีโอกาสร่วมเข้าแข่งขัน หรือพี่ ‘แม็ค เอเอฟ’ เหมือนกัน ก็ดูคลิปพวกเค้าแล้วก็พยายามคิดถึงคนที่เราอยากจะลองแปลงเป็นเค้า”
คนมองว่าหลังจากที่เราเป็นอิสระ ก็รับงานหลากหลายและดูเปรี้ยงขึ้น
“โอ้ย…ขอบคุณครับ จริงๆ ผมว่ามีส่วนนะ เพราะว่าการเป็นนักแสดงอิสระ มีสังกัดเป็นผู้จัดการส่วนตัวดูแล ไม่ได้มีเป็นค่ายเพลงก็ตัดปัญหาเรื่องแบรนด์ไปได้แล้วหนึ่งอย่าง ตัดปัญหาเรื่องแชนแนลในการออกได้ เพราะฉะนั้นเราก็ออกได้เยอะขึ้น ผมว่าผมต้องขอบคุณพี่ๆ ผู้จัดการมากกว่าที่เค้าสนับสนุนผม แล้วก็ให้ผมไปงานโน้น งานนี้เยอะแยะ แล้วมันเหมือนเป็นการต่อยอดครับ บางงานเราไปร่วมงานแฟชั่นโชว์บางงาน เพราะพี่เค้าอยากให้ไป ปรากฏว่าเราก็ได้เดินแฟชั่นโชว์ มันก็เลยเหมือนเป็นการต่อยอดต่อไป”
เห็นทีว่างานนี้หนุ่ม “นัททิว” คงจะขึ้นแท่นเป็นขวัญใจเก้งกวางบ่างชะนีแน่นอน ก็หล่อปังแถมหุ่นยังฟิตเปรี๊ยะขนาดนั้น มันน่าเอาหน้าไปซบที่ซิกส์แพ็คจริงๆ ใช่มั้ยล่ะ หุหุ