เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

พอถึงวันจันทร์อยากจะตาย ถึงวันศุกร์เมื่อไหร่รู้สึกลั้นลา. . .เชื่อว่าหลายคนคงเกิดอาการอย่างนี้ ทั้งสาวสวยวัยทำงานหรือสาวใสวัยเรียนคงรู้สึกเกลียดวันจันทร์และรักวันศุกร์กันใช่ไหมคะ เพราะอาทิตย์หนึ่งมี 7 วัน แค่ไปทำงานไปเรียนก็ปาไปตั้ง 5 วัน แถมแต่ละวันกลับมาก็ไม่เหลือเวลาให้ไปทำอะไรแล้ว ยังต้องรีบนอนเพื่อตื่นไปเรียนไปทำงานอย่างนี้วนไปอีก เสาร์อาทิตย์ก็ผ่านไปไวยิ่งกว่าไวไฟเน็ตที่บ้าน แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เหนื่อยได้ไงคะ

 

boringworking

rosengroup

ไม่ใช่แค่เราหรอกค่ะที่เกิดอาการอย่างนี้ จากการทำการวิจัยที่สหรัฐฯ พบว่าหนุ่มสาวชาวอเมริกันคือพลพรรครักงานที่ทำงานหนักที่สุดในโลก โดยมนุษย์รักงานฝ่ายชายที่ทำงานหนักคิดเป็นร้อยละ 85.8 และฝ่ายหญิงคิดเป็นร้อยละ 66.5 ดูเหมือนว่าการทำงานห้าวันต่อสัปดาห์จะไม่ตอบโจทย์ประสิทธิภาพและคุณภาพของการทำงานเสียแล้ว ว่าแต่ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นนะ

 

ยิ่งงานเยอะยิ่งเครียด

mina

ytimg

แค่ต้องเดินทางเป็นชั่วโมงเพื่อไปเรียนไปทำงานมันก็เหนื่อยกายพอแล้ว สาวๆ ยังต้องคิด วางแผน และลงมือทำงานที่เรารักเพื่อให้เสร็จทันเดดไลน์ ไหนจะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และรับมือเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย และลูกค้า ที่จะเอาทุกอย่างให้ได้ตามสั่ง แถมบางครั้งมันยังไม่ได้จบแค่ในเวลางานที่เคลมว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ต้องทำงานวันละ 8 ชั่วโมงอีกต่างหาก เพราะงานบางงานไม่ได้จบที่ที่ทำงาน เราอาจต้องแบกภาระกลับมาทำที่บ้าน ตามไปถึงที่เที่ยวตอนเราออกไปพักผ่อนในวันหยุดอีก ไม่มีเวลาไปทำเรื่องสนุก ดูทีวีรายการโปรด หรือแม้แต่นั่งนิ่งๆ นอนโง่ๆ ให้หายเหนื่อยเลยค่ะ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เครียดได้ยังไงกันคะ แถมงานเจ้ากรรมยังส่งผลต่อสุขภาพกาย ใจ และความสัมพันธ์คนรอบข้างที่ไม่มีเวลาให้กันอีก

 

ยิ่งทำงานเยอะยิ่งลดคุณภาพผลงาน

tired working

netdoctor

การทำงานวันละ 8 ชั่วโมงไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เราทำงานเสร็จและมีคุณภาพนะคะ โดยเฉพาะเหล่าสาวออฟฟิศที่ต้องนั่งหน้าคอมนานๆ ทำงานแบบ นอนสต็อป เพราะยิ่งเราใช้เวลาทำงานนานเท่าไหร่ ก็จะทำให้ตาและสมองล้า เมื่อร่างกายเหนื่อยจนไม่ไหว มันก็หมดไฟจะปั่นงานต่อแล้วค่ะ งานนี้ไม่ได้พูดขึ้นมาเองแต่ผู้มีผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการทำงานอย่าง K. Anders Ericsson ได้ทำการวิจัยและพบว่ามนุษย์รักงานทั้งหลายที่ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์จะทำให้ประสิทธภาพการทำงานลดลง แถมคุณภาพผลงานก็ไม่ดีด้วย เพราะเมื่อคนเราผลิตงานที่มีคุณภาพได้ถึงจุดสูงสุดแล้ว ไฟในการทำงานก็จะเริ่มตกลง และหากฝืนตัวเองทำต่อไปทั้งที่สมองไม่ได้จดจ่อกับงานตรงหน้าแล้ว มันก็เปลืองเวลาเปล่า แถมเราอาจจะเบื่อไปได้ง่ายๆ ด้วย

 

ทำงานแค่ 4 วันต่ออาทิตย์ มันดี๊ดี

happywoman

magic4walls

อีริคสันพบว่าการลดจำนวนวันทำงานในแต่ละสัปดาหจะช่วยให้ได้งานที่มีคุณภาพ แถมลูกน้องก็ตั้งใจทำงาน ไม่หาเรื่องอู้อีกด้วย โดยบริษัทที่ให้ลูกจ้างทำงานเพียงไม่กี่วันภายในหนึ่งสัปดาห์สามารถเพิ่มผลประกอบการให้บริษัทได้มากขึ้น รวมทั้งสร้างสัมพันธ์อันดีกับลูกน้องและทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขในการทำงานด้วย

ไม่ใช่แค่ในงานวิจัยของอีริคสัน เพราะรัฐบาลของรัฐยูทาห์ภายใต้การนำของ Jon Huntsman เคยจัดระบบการทำงานของพลเมืองมาแล้ว โดยให้ เปลี่ยนจากทำงาน 5 วัน วันละ 8 ชั่วโมง มาเป็นทำงาน 4 วัน วันละ 10 ชั่วโมง ซึ่งการทำงานแบบเต็มที่ 4 วันนั้นช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ตามอาคารสำนักงาน รวมทั้งทำให้บรรดาลูกจ้างรู้สึกลั้นลาที่จะมาทำงาน แถมลงแรงตั้งใจทำเต็มที่ เพราะไม่ต้องเร่งรีบมาทำงานให้มากมาย

 

เห็นแบบแล้วก็อยากให้บ้านเราเป็นอย่างนี้บ้างนะคะ คงเป็นการทำงานที่ได้ทั้งงานที่ดีมีประสิทธิภาพ แถมคุณภาพชีวิตเราก็ดีกว่าเดิมเยอะด้วย

ที่มา – davidwolfe