เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“อยากให้โอกาส คนเมาไม่ใช่คนไม่ดี” คำพูดที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโลกออนไลน์ หลัง “ท่านผบช.น.” เอ่ยปากระหว่างสอบปากคำดารานางแบบสาว ฉาวซ้ำสอง “แอนนา รีส” จุดกระแสดราม่า “สองมาตรฐาน” พร้อมกับตั้งคำถาม ถ้าไม่ใช่คนดังจะบีบน้ำตาเรียกความสงสารแบบนี้ได้หรือไม่ เช่นเดียวกับคดีความทั้งเก่า และใหม่ รวมไปถึงกระบวนการยุติธรรมไทยที่กำลังถูกจับตาจากสังคมอย่างไม่กะพริบ

ส่วนคดีล่าสุดที่เกิดเป็นข่าว เป็นที่แน่ชัดว่า เมาแล้วขับ มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์พบว่า ระดับแอลกอฮอล์อยู่ที่ 141 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ซึ่งเกินที่กฏหมายกำหนด หลังจากนี้คงต้องขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน การรวบรวมหลักฐาน และอัยการในการฟ้องเพื่อให้ศาลใช้ดุลยพินิจดูว่าควรจะมีการลงโทษถึงขั้นจำคุกหรือไม่

“ผมมีข้อสังเกตประการหนึ่งคือ ตอนนี้เรามีผู้ต้องขัง 300,000 คน ซึ่งเกินกว่าความจุที่จะรับได้ถึง 3 เท่า ขณะที่ในประเทศพัฒนาแล้วหลายๆ ประเทศมองว่า การนำคนไปอยู่ในคุก หรือในเรือนจำไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร ดังนั้น จึงมีมาตรการอื่นๆ ตามมา เช่น ใช้สายรัดข้อมือ หรือสายรัดข้อเท้าเข้ามาควบคุมพฤติกรรมผู้ต้องคดีเมาแล้วขับ ซึ่งสามารถวัดค่าได้จากเหงื่อของนักดื่มที่ไหลออกมาหากค่าออกมาเกินที่กฎหมายกำหนด มันจะส่งสัญญาณแจ้งไปยังผู้ดูแลระบบว่าคนนี้ละเมิดคำสั่งศาล

กลับมาที่ประเทศไทย ถ้าเทคโนโลยีมันดีก็ต้องลงทุน หากรัฐติดขัดเรื่องงบประมาณในการลงทุน อาจมีบทกำหนดให้ผู้เมาแล้วขับมาช่วยออกค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้แก่รัฐบาล ถ้ายังเมาแล้วขับซ้ำซาก คราวนี้ก็คงต้องมาดูว่าจะต้องถูกจับเข้าคุกหรือไม่” พ.ต.ต.ดร.กฤษณพงค์เสนอแนะ พร้อมกับฝากถึงการรณรงค์ในโครงการ “เมาไม่ขับ” ที่ไม่ใช่ทำเฉพาะช่วงเทศกาล หรือเข้มงวดเมื่อมีข่าวใหญ่ แต่ควรมีการติดตาม และมีมาตรการเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง นั่นเพราะ “เมาแล้วขับ” ยังคงครองแชมป์สาเหตุการเจ็บ และการตายบนท้องถนนมาตลอด

 

cr.manager

by TVPOOL ONLINE