เป็นอีกเรื่องที่พ่อแม่มือใหม่ควรรู้ หลังจากที่ นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา หรือ หมอแมว ได้ออกมาให้ข้อมูลผ่านเพจ ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว แนะนำว่า ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบกินน้ำผลไม้ โดยอ้างอิงสมาคมกุมารแพทย์สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับน้ำผลไม้ในเด็กจนกลายเป็นที่ฮือฮา ซึ่งน้ำผลไม้ไม่ให้คุณค่าทางโภชนาการที่มีประโยชน์ต่อทารกวัยน้อยกว่า 1 ปี และไม่จำเป็นต่อมื้ออาหารที่เหมาะสมและมีคุณค่าของเด็ก ทั้งนี้น้ำผลไม้แบบ 100% อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารของเด็กอายุเกิน 1 ปีได้ แต่เครื่องดื่ม รสผลไม้ บางชนิดอาจจะไม่เทียบเท่าน้ำผลไม้ นอกจากนี้ยังห้ามใช้น้ำผลไม้มารักษาอาการท้องเสีย เพราะการกินน้ำผลไม้มากไป สัมพันธ์กับภาวะทุพโภชนาการ ทั้งแบบเกินและขาด และสัมพันธ์กับอาการท้องเสีย ท้องอืด ลมขึ้น ฟันผุ
น้ำผลไม้แบบไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ อาจมีเชื้อที่ก่อโรคติดไปที่เด็กได้ จึงควรหลีกเลี่ยง ถ้าให้น้ำผลไม้แบบหลากหลายในปริมาณเหมาะสมตามวัยก็โอเค น้ำผลไม้แบบผสมแคลเซียม ให้แคลเซียม แต่ขาดสารอาหารที่พบในนมแม่ นมผง และนมวัว นพ.พิรัตน์ ระบุ
หมอแมว ยังให้ข้อมูลอีกว่า คำแนะนำของสมาคมกุมารแพทย์สหรัฐ คือ ไม่ควรให้เด็กต่ำกว่า12เดือน กินน้ำผลไม้ (ยกเว้นมีข้อบ่งชี้) โดย 1-3 ปี ไม่ควรเกิน 120 มล./วัน ส่วน 4-6 ปี ไม่ควรเกิน 180 มล./วัน และ 7-18 ปี ไม่ควรเกิน 240 มล./วัน ไม่ควรให้เด็กเล็กกินน้ำผลไม้จากในขวด หรือกระติกถ้วยที่หิ้วไปกินที่ไหนก็ได้ และไม่ควรกินก่อนนอน แต่ควรสอนเด็กกินผลไม้เป็นผลๆ เพราะได้ไฟเบอร์ และได้พลังงานเข้าไปทีละน้อยกว่าแบบน้ำ ทั้งนี้ครอบครัวและคนดูแล ควรรู้ว่านมแม่และหรือนมผงสำหรับเด็กทารก นมปราศจากไขมันหรือนมไขมันต่ำและน้ำ ก็ให้น้ำที่เพียงพอแล้ว
เด็กทารก เด็กเล็ก วัยรุ่น ไม่ควรดื่มน้ำผลไม้ที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ ควรระวังการดื่ม grapefruitในเด็กที่กินยาบางชนิด ในการประเมินภาวะทุพโภชนาการ ปวดท้อง ท้องเสีย ท้องอืดและฟันผุ แพทย์ควรประเมินและคุยเรื่องน้ำผลไม้ และควรคุยเรื่องความแตกต่างของน้ำผลไม้และเครื่องดื่มรสผลไม้ แพทย์ควรทุ่มเทสรรพกำลังในการลดการบริโภคน้ำผลไม้ในเด็ก และให้เลิกน้ำผลไม้ในเด็กที่น้ำหนักเกิน สรุปแล้วต่ำกว่า 1 ขวบ อย่าคั้นน้ำส้มให้กิน เพราะทำให้เด็กสุขภาพเสื่อม
