เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 พ.ค. 60 ที่ สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พ.ต.อ.ปรีดา ดวงพุทธา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.ท่าบ่อ, พ.ต.ต.เนติพงษ์ จำนงนิตย์ สารวัตรสอบสวนสภ.ท่าบ่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันสอบสวนจับกุมนายวีระยุทธ ศรีวิรัตน์ อายุ 19 ปี ชาวอ.น้ำโสม จ.อุดรธานี หลังก่อเหตุเข้าไปชิงทองในร้านทองเชอรี่ เลขที่ 555 หมู่ 12 ถนนพนังชลประทาน เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนระหว่างบ้านนาช้างน้ำ – บ้านท่าสำราญ ต.น้ำโมง น.ส.บัณฑิกา อนุการสกุล อายุ 31 ปี ลูกสาวร้านทองเชอรี่ กล่าวว่า เช้าวันนี้ หลังจากเปิดร้านตามปกติ เวลาประมาณ 09.40 น. คนร้ายเป็นชายหนึ่งเดินเข้ามาขอดูสร้อยคอทองคำที่ร้าน ท่าทางไม่น่าไว้วางใจแต่เนื่องจากเป็นลูกค้า จึงต้องนำทองให้ดู เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท มูลค่า 43,000 บาท โดยคนร้ายมือหนึ่งกำวัตถุบางอย่างไว้ ให้เข้าใจว่ามีอาวุธ จากนั้นคนร้ายได้กระชากสร้อยคอทองคำจากมือของตนไป พร้อมทั้งขว้างสิ่งของมาใส่ตนจึงเห็นว่าเป็นนาฬิกาไม่ใช่อาวุธ ตนจึงรีบวิ่งตาม เห็นคนร้ายรีบวิ่งไปขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่จอดไว้ด้านข้างร้านทองหลบหนีไป จึงได้รีบแจ้งตำรวจ
พ.ต.อ.ปรีดากล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดเห็นภาพคนร้ายชัดเจน จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนออกติดตามจับกุม จนกระทั่งเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ไปถึงถนนระหว่างบ้านนาช้างน้ำ–บ้านท่าสำราญ ต.น้ำโมง เห็นรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจอดอยู่ และได้ทำการค้นหาจนพบผู้ต้องหา คือนายวีระยุทธนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ ซึ่งอยู่อาการคล้ายคนเมาสารเสพติดบางอย่าง ตรวจค้นตัวพบสร้อยคอทองคำอยู่ในกระเป๋ากางเกง จึงได้ควบคุมตัวไว้
นายวีระยุทธสารภาพว่า เย็นวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนไปรับยาบ้า 10 เม็ดจากเอเย่นต์รายหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี แล้วชิ่งไม่จ่ายเงิน จากนั้นหลบหนีมาเปิดรีสอร์ตในตัวเมืองหนองคาย เช้าวันนี้ได้เสพยาบ้า 10 เม็ดจนหมด และเสพไอซ์อีก 2 กรัม ต่อมาได้ขอยืมรถจักรยานยนต์ของเจ้าของรีสอร์ตขับมาที่อ.ท่าบ่อ เห็นร้านทองเปิดอยู่มีผู้หญิงคนเดียวอยู่ในร้าน จึงเข้าไปชิงทอง หวังจะนำไปขายที่ อ.น้ำโสม หาเงินซื้อยาบ้าเสพอีก ระหว่างขี่รถหลบหนี รถเกิดน้ำมันหมดไปต่อไม่ได้ จึงต้องจอดรถไว้ จนมาถูกจับในที่สุด ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายวีระยุทธ เพิ่งพ้นโทษในข้อหาทำร้ายร่างกายแฟนสาวเมื่อ 2 ปีก่อนด้วย
