เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 2 มิ.ย. เว็บไซต์เดลีเมล์ รายงานว่า ด.ช.อาลี ฮัซซัน วัย 7 ขวบ ป่วยมีก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่ที่ตาขวา ทำให้ตาขวาไม่สามารถมองเห็นได้เลย ที่เขตปักปันตัน จังหวัดปัญจาบ ทางตะวันออกของประเทศปากีสถาน พ่อเด็กอ้อนวอนผ่านสื่อขอให้ผู้ใจบุญช่วยรักษาลูก

ทั้งนี้ แม้ยังไม่แน่ชัดว่าเด็กชายเริ่มเป็นเนื้องอกตั้งแต่เมื่อใด ชนิดใด แต่งานวิจัยทางการแพทย์สันนิษฐานว่าเด็กชายอาจเป็นมาหลายปี จนเนื้องอกแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อจมูก และปาก จนพูดลำบาก

ลักษณะที่ปรากฏคล้ายกับของด.ช.บอนเกร อันตอน ปีเตอร์ วัย 3 ขวบ ในประเทศปาปัวนิวกินี ซึ่งพ่อแม่เด็กระบุว่า เป็นมะเร็งเรตินาระยะที่ 4 และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์หากไม่รักษา

ดร.แมรี่ โลวธ์ ผู้เขียนในเว็บสุขภาพ patient.info กล่าวว่า มะเร็งเรตินาหรือจอตาพบในสัดส่วน 1 ใน 20,000 คนและร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่การรักษาที่มีประสิทธิภาพรักษาหายมาแล้วหลายคน

นายมูฮัมหมัด มันชา พ่อของเด็กชายอ้อนวอนให้ช่วยพาลูกชายไปรักษาที่เมืองละฮอร์ ซึ่งทรัพยากร เครื่องมือ แพทย์พร้อมกว่าบ้านเกิด อยู่ห่างออกไป 207 กิโลเมตร

นายแพทริก ท็องส์ ซีอีโอสถาบันมะเร็งตาในเด็ก กล่าวว่า มะเร็งเรตินาเป็นมะเร็งในเด็กที่หาได้ยากและลุกลามเร็ว มักเกิดในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ สถิติทั่วโลก พบผู้ป่วยเสียชีวิตจากมะเร็งเรตินาในประเทศกำลังพัฒนา อย่างปากีสถานและปาปัวนิวกินี ถึงร้อยละ 70 เสียชีวิต เมื่อเปรียบเทียบกับในสหราชอาณาจักรซึ่งมีร้อยละ 2 อีกทั้งในสหราชอาณาจักร เด็กป่วยมะเร็งเรตินาร้อยละ 98 ได้รับการรักษาจนหาย ส่วนหนึ่งเพราะตรวจเจอตั้งแต่ระยะแรก โดยมีเด็ก 50 คนต่อปีเป็นมะเร็งดังกล่าว

สำหรับสาเหตุของโรคนี้ร้อยละ 40 เกิดจากยีนที่ผิดปกติ ถ่ายทอดจากพ่อแม่ได้ด้วย หรือแบบสุ่ม สามารถรักษาด้วยเลเซอร์ การบำบัดด้วยความเย็นและในรายที่เนื้องอกมีขนาดใหญ่ควรรักษาด้วยคีโมน (การบำบัดด้วยเคมี) หรือการผ่าตัดร่วมด้วย

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online