ค่าย Apple เปิดตัวผลิตภัณฑ์ watchOS, macOS และ iMac Pro รุ่นใหม่ และได้เปิดตัว iOS 11 ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPhone และ iPad เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ) โดย ios11 มีคุณสมบัติเพิ่มเติม อาทิ App Store ได้รับการออกแบบใหม่ให้ค้นหาแอพและเกมได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ศูนย์ควบคุมให้คุณปรับแต่งได้มากขึ้น โดยช่วยให้เข้าถึงการควบคุมทั้งหมดที่ใช้งานบ่อยได้ในหน้าเดียว อีกทั้งหน้าจอ Lock Screen ใหม่ยังช่วยให้ดูการแจ้งเตือนทั้งหมดในที่เดียวได้สะดวกยิ่งขึ้น Apple Maps เพิ่มแผนที่ภายในอาคารสำหรับสนามบินกับศูนย์การค้าหลักๆ ทั่วโลก และเพิ่มคำแนะนำการใช้ช่องทางจราจรเพื่อไม่ให้คุณพลาดทางเลี้ยวหรือทางออก แอพ Home รองรับอุปกรณ์เสริมหลายประเภทมากขึ้น รวมถึงลำโพง AirPlay2 และรองรับวิธีอื่นๆ ในการสั่งให้อุปกรณ์ในบ้านของคุณดำเนินการโดยอัตโนมัติ Apple Pay รองรับการโอนเงินให้เพื่อนผ่าน iMessage Siri พัฒนาให้สามารถสร้างเสียงแบบใหม่ โดยรองรับทั้งเสียงผู้ชายและผู้หญิง รองรับการแปลภาษาละเอียดขึ้น นอกจากนี้ยัง แอปกล้อง เพิ่มประสิทธิภาพการบีบอัดภาพและวิดีโอเพิ่มเพื่อจัดการเนื้อที่ระหว่างการถ่ายโดยไม่เสียคุณภาพ ทำให้กินพื้นที่น้อยลง นอกจากนี้ยังมี Depth API สำหรับ iPhone 7 Plus เพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพด้วย Car Play เพิ่มฟีเจอร์ Do Not Disturb ซึ่งจะปรับ iPhone ทุกเครื่องเข้าสู่โหมดเงียบป้องกันการรบกวน AirPlay 2 มาพร้อมกับเสียงแบบมัลติรูมซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมลำโพงโดยใช้ศูนย์ควบคุม แอพ Home หรือ Siri ได้อย่างง่ายดาย Apple Music มาพร้อมกับหนทางใหม่ๆ ให้คุณค้นพบเพลงไปกับเพื่อนๆ ผู้ใช้งานสามารถสร้างโปรไฟล์ให้เพื่อนๆ ติดตาม ฟังเพลงในเพลย์ลิสต์ที่ตัวเองได้แชร์ไว้ และดูเพลงที่ตัวเองฟังมากที่สุดได้ Apple News ช่วยให้ผู้อ่านทราบและได้รับความบันเทิงจากเรื่องราวยอดนิยมและคำแนะนำจาก Siri ได้ดียิ่งขึ้น โดยนำเสนอเรื่องราวที่ทีมบรรณาธิการของ Apple News ได้คัดสรรมาให้อ่านกันทุกวันในแท็บ Spotlightใหม่ รวมถึงวิดีโอที่ดีที่สุดประจำวัน โหมดคีย์บอร์ดมือเดียวบน iPhone ช่วยให้พิมพ์ข้อความในระหว่างที่ทำงานอื่นได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม อีกทั้งคีย์บอร์ด QuickType บน iPad ช่วยให้ใช้งานตัวเลข สัญลักษณ์ และเครื่องหมายวรรคตอนได้อย่างรวดเร็ว
Cr. ประชาชาติธุรกิจ
