เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อาการตาแดงหลังจากลงไปในสระว่ายน้ำคงเป็นอาการที่หลายคนเคยประสบพบเจอ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักคิดว่ามันเป็นผลค้างเคียงจากสารคลอรีนที่ถูกเติมลงไป แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่เลย

 เพราะอาการตาแดงนั้นเป็นผลมาจากการปนเปื้อนของ “ปัสสาวะ”

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (CDC) สภาคุณภาพน้ำและสุขภาพ และองค์กรสระว่ายน้ำและกีฬาว่ายน้ำแห่งชาติ (NSPF) ได้ออกมาประกาศว่าปัญหาของสิ่งสกปรกจากปัสสาวะในสระว่ายน้ำได้กลายเป็นปัญหาสำคัญถึงขั้นต้องรณรงค์กันอย่างจริงจัง

จากการสำรวจของ Survata พบว่าชาวอเมริกันและคนทั่วโลกส่วนใหญ่เชื่อว่าการเติมสารเคมีลงไปจะช่วยกำจัดของเสียและสารปนเปื้อนต่างๆ ในน้ำได้ และพบว่าผู้คนกว่า 71% เชื่อว่าอาการตาแดงเป็นผลมาจากคลอรีน

“คลอรีนและสารฆ่าเชื้ออื่นๆ ถูกเติมเพื่อทำลายสิ่งสกปรกในสระว่ายน้ำ”

“แต่การปัสสาวะลงในสระจะลดสมรรถภาพของคลอรีนและก่อให้เกิดการระคายเคืองจนดวงตาของผู้ใช้สระเปลี่ยนเป็นสีแดง” Michele Hlavsa หัวหน้าศูนย์ CDC กล่าว

ส่วนวิธีการแก้ไขก็ง่ายมาก แค่ทุกคนไม่ปัสสาวะลงในสระว่ายน้ำและชำระล้างร่างกายให้สะอาดทุกครั้งก่อนลงสระก็เพียงพอแล้ว

“ตาสีแดงก่ำของคนที่ว่ายน้ำบ่งบอกให้เห็นชัดเจนว่ามีใครบางคนปัสสาวะลงไป” Thomas M. Lachocki ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO แห่ง NSPF ให้สัมภาษณ์

และ Chris Wiant ประธานสภาคุณภาพน้ำและสุขภาพก็ยืนยันว่า “กลิ่นคลอรีนที่ว่ากันก็ไม่ใช่แค่กลิ่นของคลอรีน แต่มันเป็นกลิ่นของการทำปฏิกิริยาระหว่างคลอรีนและสิ่งสกปรกจากร่างกายของมนุษย์ที่ตกลงไปในน้ำอย่างเช่น เหงื่อ ผิวหนัง หรือปัสสาวะ”

ซึ่งนอกจากปฏิกิริยาที่เกิดจากสารคลอรีนรวมกับสิ่งสกปรกเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดอาการตาแดงแล้วยังทำให้มีอาการไอและน้ำมูกไหลอีกด้วย ดังนั้นการเติมคลอรีนลงไปจึงทำไปเพื่อลดสิ่งสกปรกเหล่านี้ และสิ่งที่ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกันก็คือปฏิบัติตามกฎของสระว่ายน้ำเรื่องความสะอาด แล้วอาการตาแดงหรือปัญหาต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป

ที่มา : dailymail