ตร.ภ.4 ตั้งเพิ่ม 1 ข้อหา 5 ผู้ต้องหาร่วมทีมสวยสังหาร พร้อมคัดค้านการประกันตัวทั้งหมด “เจริญวิทย์” มั่นใจสำนวนคดีฆ่า “น้องแอ๋ม” รัดกุมทุกขั้นตอน ไม่เร่งการทำงานพนักงานสอบสวน และทันต่อการสรุปสำนวนสั่งฟ้องได้ทันภายใน 84 วัน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมปานรักษา กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแกน พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนฯ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนฯ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานสอบสวน ที่เกี่ยวข้องในคดีฆาตกรรม น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม เพื่อติดตามความคืบหน้าการสอบสวนคดีความดังกล่าวหลังสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุได้แล้วทั้งหมด โดยในการประชุมดังกล่าวนี้มีพนักงานสอบสวนมือดีที่ถูกแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของ บช.ภ.4, ชุดสืบสวนสอบสวนร่วม บช.ภ.4, บก.สส.ภ.4,สภ.เขาสวนกวาง,ภ.จว.ขอนแก่น และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 เข้าร่วมประชุมรวมกว่า 30 นาย โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนหรือผู้ที่ไม่มีมีส่วนเกี่ยวข้องเข้าสังเกตการณ์หรือรับฟังการประชุมในครั้งนี้แต่อย่างใด โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 2 ชม.
พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ได้มีการตั้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม เพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา ในความผิดตามมาตรา 289 ตระเตรียมการโดยไตร่ตรองไว้ก่อน รวมทั้งการคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน หลังจากก่อนหน้านี้ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลอบฝังซ่อนเร้นหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์หรือรับของโจร โดยในขณะนี้พนักงานสอบวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับทราบแล้ว
“วันนี้มีความคืบหน้าทางมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งชุดสืบสวน สอบสวน และพิสูจน์หลักฐาน ได้ร่วมกันสรุปความคืบหน้าข้อมูลทางคดีในภาพรวมทั้งหมด โดยทีมสืบสวนยังคงมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลในรูปการต่างๆทางคดี ขณะที่แนวทางสอบสวน มีการสอบปากคำพยานแวดล้อมรวม 15 ปาก และผู้ต้องหาอีก 5 ปาก รวมทั้งหมด 20 ปาก แต่อาจจะมีการสอบสวนเพิ่มเติมอีกในบางประเด็น ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยพนักงานสอบสวนจะเข้าทำการสอบปากคำผู้ต้องหาที่ยังคงถูกคุมขังไว้ที่เรือนจำกลางขอนแก่นและทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ขณะเดียวกันยังคงเร่งรัดในเรื่องของการตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต่างๆ ทั้งการตรวจสอบที่เกิดเหตุ,การตรวจสอบรถยนต์คันที่ใช้ในการก่อเหตุ,การตรวจดีเอ็นเอ และการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ที่มีมากกว่า 30 รายการ ที่ขอให้เร่งรัดการสรุปผลตรวจให้กับทีมสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์เพื่อที่จะใช้ในการประกอบสำนวนคดี”
รอง ผบช.ภ.4 กล่าวต่ออีกว่า ในแนวทางการสืบสวนได้มีการตัดประเด็นต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องออกทีละจุด เพื่อให้สำนวนมีความกระชับ รอบครอบ แม่นยำ และเอาผิดกับผู้ต้องหาได้แม้อาจจะให้การปฎิเสธในชั้นศาลก็ตาม ขณะเดียวกันยังคงมีการตัดประเด็นของนายธวัชชัย อ้อมชมพู หรือเก้า ซึ่งก่อนหน้านี้ระบุว่าพาผู้ต้องหาหลบหนีออกไป ขณะที่ประเด็นพัวพันยาเสพติดนั้นเป็นการประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง บช.ปส. และ ปปส. เพื่อตรวจสอบข้อมูลหรือเส้นทางการเงินต่างๆ ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดต่อไป ส่วนคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นนั้นเจ้าหน้าทีตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่และรัดกุมในทุกขั้นตอน ทั้งนี้จะยังคงไม่บีบรัดการสอบสวนหรือการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในสำนวนคดี แต่ยังคงยืนยันว่าสำนวนการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนั้นจะแล้วเสร็จและทันในกรอบระยะเวลาของการสอบสวน 84 วัน ตามการขออำนาจศาลฝากขัง 7 ผลัดๆละ 12 วัน อย่างแน่นอน
พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า สำนวนการสอบสวนนั้นทุกคนให้การที่เป็นประโยชน์และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน มีการแบ่งแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจน ขณะที่หลักฐานที่พบเพิ่มคือชุดที่ผู้ต้องหาทั้งหมดใช้ในการลงมือก่อเหตุ ที่เจ้าหน้าที่พบเสื้อ ผ้าขนหนู และถุงมือ ที่ถูกใส่ไว้รวมกันในถุงพลาสติกดำและถูกทิ้งไว้ริมถนนในพื้นที่ อ.เขาสวนกวาง ขณะที่การสอบสวนผู้ต้องหาพบว่าผู้ต้องหาได้ร่วมกันก่อเหตุฆ่า น.ส.แอ๋ม บนรถ และยังคงนำร่างของผู้ตายไว้บนรถ ก่อนขับรถตระเวนซื้อสิ่งของตามจุดต่างๆในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อใช้มาหั่นและชำแหละศพผู้ตาย โดยใช้เลื่อยหั่นลำตัว พอมาถึงตรงกระดูกสันหลังจึงใช้มีดบังตอสับลงไป อีกทั้งยังคงมีการตัดแขนซ้ายอีกด้วย อย่างไรก็ตามสำนวนการสอบสวน นั้น มีพนักงานสอบสวนมือดี ที่ประจำอยู่ที่ศูนย์กฎหมาย บช.ภ.4 ลงไปกำกับสำนวนด้วยตัวเองรวมกว่า 10 นาย และมีการคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ในข้อกล่าวหาทั้งหมด หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการคัดค้านการประกันตัวเฉพาะนายวศิน,น.ส.ปรียานุช,น.ส.กวิตา และ น.ส.อภิวันทน์ เท่านั้น
ที่มา – ข่าวสด
by TVPOOL ONLINE