เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ สำหรับเรื่องราวของ ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือ ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต ที่มีเปิดคอร์สให้กำลังใจคลายปมชีวิต โดยมีดารา คนดังหลายคนเคยเข้าร่วมและมีภาพปรากฏในคลิปโปรโมท แต่ก็มีคนดังบางคนออกมาเรียกร้องให้นำรูปของตนเองออก เนื่องจากไม่ได้ยินยอมให้นำภาพมาใช้ และไม่ได้ไปเข้าคอร์สมานานแล้ว

ล่าสุด รายการ Debate โต้เหตุผล ค้นความจริง ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ได้สัมภาษณ์ พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ ถึงคอร์ส “เข็มทิศชีวิต” ของครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง

โดย คุณสุรีรัตน์ ศรีพรหมคำ (คุณโอ๋) ลูกศิษย์ครูอ้อย กล่าวว่า หลักการของครูทำให้เรารู้จักตัวเอง การเข้าไปเรียนไปหาว่าเกิดอะไรขึ้นในใจของเรา เราเคยมีความรู้สึกไม่โอเคกับอะไร เราแค่กลับไปทำความรู้สึกใหม่ ว่าสิ่งที่เราเข้าใจไม่ได้ถูกต้องเสียทีเดียว พอเราเข้าใจเราก็ไปต่อได้ สำหรับโอ๋ โอ๋เรียนคอร์สนี้แล้วชีวิตดีขึ้นทันที เพราะแรงบันดาลใจที่ได้จากคอร์สอื่นอยู่ไม่เกิน 7 วัน 10 วันก็ดับ แต่คอร์สนี้ทำให้เรามีแรงบันดาลใจด้วยตนเอง
เมื่อถามว่าคอร์สนี้เหมือนเล่นกับความเชื่อกับความอ่อนแอของประชาชน คุณโอ๋ระบุว่า มันไม่ได้เล่นกับความอ่อนแอ แต่เป็นเรื่องของความคิด โอ๋เชื่อว่าธุรกิจเราเจ๊งแน่มาตลอด แต่มันสอนเราเปลี่ยนความเชื่อว่าเราทำธุรกิจอะไรก็สำเร็จ เวลาครูสอนทางโลกก็คือทางโลก แต่เวลาสอนธรรมะก็คือธรรมะ

ส่วนการย้อนไปในอดีต กวักเรียกสิ่งดีๆ ในชีวิต คุณโอ๋ระบุว่าไม่ใช่ความคลุ้มคลั่ง แต่เป็นความเจ็บปวดของคนที่เจอเรื่องในอดีต เป็นกระบวนการเรียนรู้ เราได้กำลังใจ และเราจะมองเห็นโอกาส คอร์สนี้แค่บอกทางพวกเราให้เราไปพัฒนาต่อ ซึ่งห้องเรียนนี้ทำให้เรารู้จักตรงนี้ ทำให้เรารู้ทันตัวเอง ว่าตอนนี้ฉันกำลังดีใจนะ เสียใจนะ ถามว่าดีมั้ย โอ๋บอกว่าดีมาก คอร์สนี้ทำให้เราจะไม่เสพดราม่า เราจะไม่อยู่กับความรู้สึกว่าเราทำไม่ได้ การไปเรียนกับครูทำให้เรามีแต่คำว่า เราทำได้

ส่วนเรื่องค่าคอร์ส คุณโอ๋ระบุว่าครูจัดคอร์สฟรีบ่อยมาก คนที่จ่ายเงินมากๆ ก็คือคนที่อยากเรียนกลุ่มเล็กๆ หรือคนที่มีเวลาเรียนสองวัน คอร์สที่เก็บเงินคือคอร์สที่เกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง คอร์สที่เกี่ยวกับหลักธรรมศาสนาไม่ได้เก็บเงิน

ด้านพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า ถ้าการจัดคอร์สเป็นเจตนาดี อย่างไรก็คงเป็นกุศล พระพุทธเจ้าตรัสว่าทำปัจจุบันให้ดีที่สุด อย่าติดอยู่กับอดีตจนเกินไป แต่ต้องระวังว่าเขาจะบริโภคปัญญาอาจารย์มากเกินไป ไม่บ่มเพาะปัญญาตัวเองให้ขึ้นมา พระพุทธเจ้าไปอยู่กับอาจารย์สองท่าน ถ้าไม่พัฒนาตัวเองอาจจะไม่ตรัสรู้ก็ได้

เมื่อถามว่านี่เป็นการเล่นกับความอ่อนแอของประชาชนหรือไม่ พระพยอมระบุว่า สำหรับบางคนที่ต้องอาศัยคนอื่นพาไป ก็อาจจะช่วยผ่อนคลายได้ชั่วขณะหนึ่ง แต่อนาคตเราไม่รู้ ส่วนในทางพระพุทธศาสนาบอกว่าอย่ามองไปที่วัตถุ

ส่วนเรื่องการทำคอร์สเชิงพาณิชย์ พระพยอมตอบว่า เราต้องดูเจตนาเขา ถ้าเจตนาดี ถึงจะเสียเงินมาก แต่ถ้าคุ้มค่า ก็ไม่น่าจะตำหนิอะไรมาก แต่ต้องดูเจตนาว่าอยู่ตรงไหน จริงๆ ทุกที่ก็ต้องจ่ายเงินเรียน แต่เกินไม่เกิน มันอยู่ตรงนี้ ถ้าเจตนาเขาเอาไปช่วยเด็กยากจน ช่วยคนชรา มันดูตรงนั้นด้วย แต่ถ้าเขาเอาเงินไปปรนเปรอเค้าเอง ให้เขาสบาย อันนี้ก็เจตนาไม่ค่อยดี

เมื่อถามว่าอยากจะฝากอะไรในทางพระพุทธศาสนา พระพยอมกล่าวว่าอาตมาขอสามคำ ขออย่าให้ศรัทธาเรา “เลื่อนลอย” “เลื่อนเปื้อน” แต่ขอให้ศรัทธาเรา “เลื่อนระดับ

ที่มา  bectero.tv 

Live!! ดีเบต – พระพยอม มองคอร์ส 'เข็มทิศชีวิต'

รายการ Debate โต้เหตุผล ค้นความจริง 16 มิถุนายน 2560 ร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็น 'พระพยอม มองคอร์ส 'เข็มทิศชีวิต'' ผ่านทาง Facebook live และ Youtube : "bectero.tv"ดีเบต #Debate โต้เหตุผล ค้นความจริง … "ดีเบต เพราะเราเชื่อว่า เหตุผล และ ความจริง จะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น" คุณผู้ชมสามารถดูรายการ Debate ย้อนหลัง ได้ทางtv.bectero.com : http://tv.bectero.com/debate/?f=1YouTube : http://bit.ly/2rNEnch

โพสต์โดย bectero.tv บน 16 มิถุนายน 2017

by TVPOOL ONLINE