เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพหมอนวดกำลังบีบนวดหน้าอกให้กับลูกค้าสาว ซึ่งเจ้าของภาพดังกล่าว มีการโพสต์ข้อความอธิบายว่า อาชีพดังกล่าว เป็นอาชีพที่ใครๆ ก็พากันอิจฉา ซึ่งหมอนวดในภาพเป็นสาวห้าวที่เรียนจบจากคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอจึงมีความรู้ความสามารถในการนวดให้กับหญิงสาวที่ศัลยกรรมเสริมหน้าอก ซึ่งผู้ที่เสริมหน้าอกมานั้น มักจะมีอาการปวดหน้าอก ตึงหน้าอก ปวดหลัง พังผืดเกาะ ซึ่งบริการดังกล่าว ถือว่าตอบโจทย์สาวๆ กลุ่มนี้อย่างยิ่ง

เปิดใจเจ้าของหมอนวดนม นวดเค้นไปเพื่ออะไร?

น.ส.มันตา สุภานันพิภัทร์กุล หรือ มีน เจ้าของร้านสปา กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า ปัจจุบัน กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มสาวๆ ที่ทำหน้าอก ซึ่งจุดเริ่มต้นของบริการนวดหน้าอกนั้น มาจากการที่ตนมีปัญหาปวดหน้าอก ตึงหน้าอก ปวดหลัง พังพืดเกาะ และมีอาการหลังค่อม บวกกับไม่มีเวลาออกกำลังกาย เพราะฉะนั้น การนวดหน้าอกจึงสามารถบรรเทาอาการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

“ปัญหาของคนทำหน้าอก จะมีความรู้สึกเหมือนตอนคนที่ไม่ได้ทำ พยายามง้างนิ้วโป้งกับนิ้วก้อยกางเหยียดออกจากกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งความรู้สึกของคนทำหน้าอก จะมีอาการตึงหรือหน่วงแบบนี้ ส่วนความรู้สึกตอนนวดนั้น จะเจ็บมาก ปวดมาก หากโดนเส้นที่ปวด แต่เมื่อนวดเสร็จก็จะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งการนวดของทางร้านจะใช้เวลาอยู่ที่ 1 ชั่วโมงครึ่ง ราคาต่อหัวอยู่ที่ 1,390 บาท” มีน เจ้าของร้านสปา กล่าว

อาจารย์แพทย์ แนะวิธีเสริมหน้าอกปลอดภัย จำเป็นไหมต้องนวดนม?

ทั้งนี้ ทีมข่าวได้ติดต่อไปยัง นพ.สุรเวช น้ำหอม อาจารย์แพทย์หน่วยศัลยกรรมตกแต่ง รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล เพื่อซักถามถึงประเด็นดังกล่าว นพ.สุรเวช ให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าวว่า ในอดีต การเสริมหน้าอกนั้น คนไข้จำนวนมากมักจะมีปัญหาหน้าอกแข็ง และมีพังผืด เพราะฉะนั้น จึงมีความเชื่อว่า การนวดจะช่วยทำให้หน้าอกนิ่มขึ้นได้

“ปัจจุบัน คนไข้ไม่ได้มีปัญหาพังผืดแข็งมากเหมือนเช่นแต่ก่อนแล้ว แต่ว่าคนที่เสริมแบบเก่าๆ (เสริมทางรักแร้) ก็ยังคงไปนวดกันอยู่ ซึ่งการนวดจะช่วยให้พังผืดที่ติดอยู่แตกออก เพราะฉะนั้น ผู้นวดจะต้องใช้แรงนวดค่อนข้างแรงมาก หรืออาจจะเรียกว่าบีบเค้นอย่างรุนแรงเลยก็ว่าได้ ซึ่งอาจทำให้ซิลิโคนแตกได้ หากบุคคลนั้นๆ เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนที่คุณภาพต่ำ” นพ.สุรเวช กล่าว

นพ.สุรเวช กล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบัน แพทย์มักจะแนะนำว่า คนไข้ควรผ่าตัดใต้ราวนม โดยการผ่าตัดจะใช้เทคนิคที่สะอาดปราศจากเชื้อ และมีการป้องกันเชื้อโรคที่จะเข้าไปสู่ร่างกายได้เป็นอย่างดี ซึ่งการผ่าตัดเช่นนี้ จะสามารถลดพังผืดที่จะเกิดกับคนไข้ไปได้ค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้น คนไข้ก็ไม่จำเป็นต้องไปนวดในลักษณะนี้อีกต่อไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม หากคนไข้เสริมหน้าอกผ่านทางรักแร้ หรือผ่าตัดด้วยเทคนิคที่ไม่ได้รักษาความสะอาดใดๆ มากนัก โอกาสที่พังผืดจะเกิดกับคนไข้ท่านนั้นๆ ก็ยังถือว่าสูงอยู่ และคนไข้ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องนวด ดังนั้น ผู้ที่กำลังวางแผนเสริมหน้าอกควรเลือกศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญและเป็นศัลยแพทย์ที่ติดตามความก้าวหน้าของทางการแพทย์อยู่เสมอ.

ที่มา – ไทยรัฐ

by TVPOOL ONLINE