เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. บีบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานมาเลเซียพบลูกช้าง ลักษณะถูกรถชนตายจมกองเลือดคาถนนใหญ่สายตะวันออก-ตะวันตก ของมาเลเซีย เชื่อมกับรัฐกลันตันกับเมืองเกริก รัฐเประก์
นักสิ่งแวดล้อมชี้ว่า การทำลายผืนป่า แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ที่เพิ่มมากขึ้นบังคับให้ช้างป่าเข้าใกล้ทางหลวงดังกล่าวยิ่งขึ้นด้วย แต่ทางการควรกระตุ้นให้คนขับรถใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
“เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก พวกเราได้ติดป้ายแจ้งผู้ขับขี่แล้วว่าจะมีช้างข้ามถนนตลอดเส้นทาง ดังนั้นผู้ขับขี่จึงต้องรู้จักรับผิดชอบมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อขับรถในช่วงดึกหรือช่วงเช้าตรู่” นายลู เคียนซอง ผอ.กรมสัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติของรัฐเประก์กล่าว
กลุ่มการจัดการและนิเวศวิทยา หรือ MEME เป็นกลุ่มอนุรักษ์ของมาเลเซีย เชื่อว่าลูกช้างตายเร็วมาก ถูกชนที่หัว เมื่อทางกลุ่มไปถึงครอบครัวของมันไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว
เจ้าหน้ากลุ่ม MEME ให้ข้อมูลว่า มีช้างตัวอื่นตายในป่าแห่งนี้ในปี 2553 กับ 2557
“ช้างป่าสูญเสียพื้นที่ป่าที่มันอยู่อาศัยไปมาก และช้างออกไปยังท้องถนนเพิ่มมากขึ้นเพื่อหาอาหาร เช่น หญ้า ต้มปาล์ม ไผ่ เป็นต้น รวมถึงยังใช้เวลาเดินรอบๆถนนมากขึ้นด้วย พร้อมเสริมว่า ควรบังคับใช้การจำกัดความเร็วลงอีก ติดตั้งไฟตามถนนเพิ่มขึ้น” เจ้าหน้าที่กลุ่ม MEME ระบุ
“ขณะที่ประเทศมาเลเซียก็พัฒนาไป มาเลเซียจึงจำเป็นต้องประนีประนอม (ระหว่างการพัฒนากับการรักษาพื้นที่ป่า ชีวิตสัตว์) โดยเฉพาะในพื้นที่นี้ที่เป็นแหล่งผืนป่าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช้างจำเป็นต้องเดินอย่างอิสระและปลอดภัย” เจ้าหน้าที่กลุ่ม MEME ระบุ
เหตุดังกล่าวทำให้ชาวมาเลเซียหลายคนแสดงความไม่พอใจผ่านทางเฟซบุ๊ก เหตุสัตว์ป่าในประเทศตนเองเข้ามาติดต่อกับคนมากขึ้น เพราะเสียพื้นที่ป่า บ้านของมัน
“หนึ่งในป่าที่อุดมสมบูรณ์มีความหลากหลายแห่งหนึ่งในโลก และนี่คือสิ่งที่เราปฏิบัติต่อสัตว์ป่าของเรา พวกมันกำลังเสียบ้านในนามของการพัฒนา และพวกมันกำลังชดใช้ด้วยชีวิต”
ขณะที่อีกด้านหนึ่งกังวลเกี่ยวกับผู้ขับรถอย่างประมาท ตั้งข้อสงสัยว่าคนขับอาจเมาหรือกำลังเร่งความเร็ว
“เมื่อคุณเห็นป้ายให้ลดความเร็ว ก็ลดความเร็วสิ เรื่องง่ายๆ พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นบ้านของพวกมันอยู่ ดังนั้นให้ความเคารพด้วย”
“ฉันต้องการที่จะรู้ว่าคนที่มองไม่เห็นแม้กระทั่งสัตว์ตัวใหญ่ขนาดนั้น มองแบบไหนกัน”
Cr. ข่าวสด
by TVPOOL ONLINE


