สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ขณะนี้ทาง Modern Internasional บริษัทแม่ผู้ให้บริการร้านสะดวกซื้อในชื่อ 7-11 ในประเทศอินโดนีเซีย ได้ออกประกาศปิดกิจการร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขา ภายในวันที่ 30 มิ.ย.2560 โดยให้เหตุผลว่า ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ เนื่องจากไม่มีเงินเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน อีกทั้งยังประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรที่ให้บริการในการดำเนินกิจการอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่บริษัทเปิดให้บริการร้านสะดวกซื้อ โดยผลประกอบการในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้งวดบัญชีปี 2559 จำนวน 2,200 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 27% หรือขาดทุนกว่า 1,623 ล้านบาท และในปี 2559 ทาง Modern Internasional ได้ออกประกาศปิดสาขาเซเว่น อีเลฟเว่น จำนวน 25 แห่ง สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่รัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกฏห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (กฏหมายของประเทศอินโดนีเซียจะยึดโยงกับหลักคำสอนทางศาสนาอิสลาม) ส่งผลทำให้ยอดรวมปรับตัวลดลงอย่างมาก อีกทั้งการที่บริษัทไม่สามารถแข่งขันกับผู้ให้บริการร้านสะดวกซื้อเจ้าอื่นซึ่งเป็นผู้นำตลาดได้
ขณะที่ 2 ผู้ให้บริการรายใหญ่ร้านสะดวกซื้อ ในอินโดนีเซีย คือ Alfamart ที่มีจำนวนสาขากว่า 10,086 สาขา ครองตลาดเป็นอันดับ 1 ส่วน Indomaret ที่มีสาขาทั้งประเทศกว่า 8,039 สาขา ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2
ทั้งนี้ Modern Internasional เป็นผู้ริเริ่มให้บริการร้านสะดวกซื้อสมัยใหม่ที่มีีเครื่องปรับอากาศและโซนอาหารพร้อมรับประทานภายในร้านตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งปัจจุบัน Modern Internasional มีสาขาให้บริการในชื่อ เซเว่น อีเลฟเว่น จำนวนทั้งสิ้นกว่า 161 ทั่วประเทศ โดยสาขาส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซีย (ข้อมูลสิ้นปี 2559)
ล่าสุด ราคาหุ้นของ Modern Internasional ปรับตัวแตะระดับต่ำที่สุดในประวัติการณ์ ทั้งๆ ที่ market Cap ณ วันที่ 22 มิ.ย.60 อยุ่ที่ 580 ล้านบาท โดย Market Cap ณ ปัจจุบันลดลงจากจุดสูงที่สุดในปี 2013 ลงมาติดลบถึง -95% กดดันให้ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปีติดลบลงแล้วกว่า 55%
ที่มา – manager