เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ตำรวจได้รับแจ้งพบเด้กชายพลัดหลงอยู่ย่านเขตราษฎร์บูรณะ จากการตรวจสอบพบบาดแผลเต็มร่างกายเด็ก หลังจากได้สอบถามเด็กชายวัย 11 ปีได้บอกว่า หนีมาจากโรงเรียนที่จังหวัดจันทบุรี โดนเพื่อนกลั่นแกล้ง พ่อแม่ก็ตายหมดแล้ว ตำรวจจึงทำการตรวจสอบหาญาติ กลับพบว่าพ่อแม่ของเด็กยังมีชีวิตอยู่ ทั้งสองได้แจ้งว่าลูกชายหนีออกจากบ้าน ตำรวจจึงเชิญตัวผู้ปกครองให้เดินทางมายังโรงพักเพื่อพูดคุยกันอย่างละเอียด

พ่อและแม่แท้ๆของเด็กชายรายนี้ ให้การกับตำรวจว่า ลูกชายหนีออกจากบ้านมาเมื่อเย็นวันที่ 26 มิถุนายน หลังไปขโมยพระเครื่องของนายจ้างที่ผู้ปกครองทำงานอยู่ด้วย แต่นายจ้างไม่ติดใจดำเนินคดี พร้อมขอให้พ่อและแม่อบรมสั่งสอนลูกให้เป็นคนดี ด้วยความโมโห ผู้เป็นพ่อจึงใช้เชือกมัดแขนลูกไว้เป็นการทำโทษ แต่ลูกกลับหลบหนีมา

พ่อของเด็กชายวัย 11 ขวบ เล่าอีกว่า ลูกเป็นเด็กดื้อและเกเร ชอบแกล้งคนอื่น ชอบลักทรัพย์ ทั้งโทรศัพท์มือถือของเพื่อนบ้าน และทำลายรองเท้าที่พ่อแม่รับมาจากโรงงานเพื่อทำเป็นอาชีพ จนต้องเป็นหนี้สินมากถึง 180,000 บาท และลูกชายยังมีพฤติกรรมพูดใส่ร้ายพ่อแม่อยู่เป็นประจำ ส่วนบาดแผลที่ปรากฏตามร่างกายเด็กก็มาจากการทำร้ายตัวเองทั้งสิ้น

ผู้ปกครองของเด็กบอกกับตำรวจอีกว่า ตั้งแต่เกิด ลูกชายคนนี้อาศัยอยู่กับปู่และย่าที่ต่างจังหวัด เพราะพ่อและแม่มีภาระต้องเลี้ยงดูลูกสาวคนโตอายุ 14 ปี ที่พิการ และลูกชายคนเล็กวัย 6 ขวบ กระทั่งเมื่อหลายปีก่อน ย่าของเด็กมาเสียชีวิต สาเหตุเนื่องจากถูกหลานชายที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังเล็ก หยดน้ำยาล้างห้องน้ำผสมกับน้ำให้ดื่มติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยลูกมาสารภาพหลังย่าตายแล้ว นอกจากนี้ลูกชายวัย 11 ขวบ ยังเคยผสมผงยากันยุงกับน้ำลำไย ให้พี่สาวที่พิการ รวมถึงพ่อและแม่ดื่มด้วย แต่ทุกคนรอดชีวิตมาได้ ทั้งนี้เคยพาลูกชายไปพบจิตแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาแล้ว แต่ก็ไม่ดีขึ้น จึงประกาศกลางโรงพัก ไม่ขอเลี้ยงดูลูกชายคนนี้อีกต่อไป

เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อตามคำให้การของพ่อและแม่ของเด็ก จึงเตรียมสอบถามเด็กต่อหน้านักสังคมสงเคราะห์และสหวิชาชีพ เพื่อสรุปข้อเท็จจริงอีกครั้ง ซึ่งระหว่างนี้เด็กชายวัย 11 ขวบ จะอยู่ในความดูแลของศูนย์ประชาบดี และประสานส่งตัวเด็กเข้าสู่สถานสงเคราะห์ เพื่อให้ได้รับการฟื้นฟูและบำบัดสภาพจิตใจต่อไป