กรณีที่คนร้ายขี่รถจยย.ตามประกบยิงนายไชยา อุดม อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169/4 ถนนไตรภูมิ-สะพานยาว ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เอเย่นต์ลอตเตอรี่รายย่อย พร้อมนายคิว จยย.รับจ้าง ในตลาดท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิตบนถนนไตรภูมิ-สะพานยาว หน้าโกดังเก็บหัวหอม-กระเทียม เลขที่ 147 สะพานยาว-ไตรภูมิ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ห่างจากบ้านประมาณ 150 เมตร เหตุเกิดช่วงเช้าเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 60 ที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด สันนิษฐานว่ามาจากเรื่องส่วนตัวและการขัดผลประโยชน์บางอย่าง
คืบหน้าเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ รอง ผกก สส.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้นำหมายจับเข้าทำการควบคุมตัวนางเอื้อมเดือน มาจุรินทร์ อายุ 50 ปี ภรรยาของนายไชยา มาสอบสวน โดยนางเอื้อมเดือนให้การปฏิเสธเสียงแข็ง ก่อนจะยอมจำนนหลักฐานจากภาพการนัดเจอมือปืน โทรศัพท์หามือปืน และการโอนเงินให้มือปืน โดยนางเอื้อมเดือนรับสารภาพว่า เป็นคนว่าจ้างมือปืนยิงนายไชยาสามีของตนเองจนเสียชีวิตจริง เนื่องจากมีปัญหาทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรงบ่อยครั้ง จนขอแยกทางกับนายไชยา แต่นายไชยาไม่ยอม แม้จะเคยจ้างนายไชยาให้เลิกเป็นเงิน 1 แสนบาทแต่ไม่สำเร็จ เพราะนายไชยายืนยันไม่ยอมเลิกอย่างเด็ดขาด จึงตัดสินใจว่าจ้างมือปืนตามสังหารเสียชีวิตดังกล่าว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนางเอื้อมเดือนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาเป็นผู้ใช้ จ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อย่างไรก็ตามจะทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการวางแผนฆ่านายไชยาอีกบ้าง ซึ่งจะได้เสนอศาลขออนุมัติหมายจับต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่นายไชยาถูกมือปืนยิงเสียชีวิตนางเอื้อมเดือนเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นศพสามีก็ตรงปรี่เข้าไปหาร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายแทบขาดใจ และตลอดการบำเพ็ญกุศลศพกระทั่งวันเผาศพนายไชยาเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 60 ที่ฌาปนสถานวัดชะเมา ต.ท่าวัง นางเอื้อมเดือนได้ร่ำไห้เสียใจพร้อมสาปแช่งคนร้าย พร้อมขอให้ตำรวจจับกุมให้ได้โดยเร็วด้วย