เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

คนเป็นพ่อเป็นแม่คงจะเจ็บกว่าลูกเป็นร้อยเท่าพันเท่าแน่ เมื่อพบว่าลูกตัวเองนั้นถูกเพื่อนแกล้งจนทำให้กระดูกนิ้วก้อยเท้านั้นแตก ซึ่งทางแม่ของเด็กนั้นกลับไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงได้ออกมาร้องผ่านโลกโซเชียล โดยระบุว่า…

สวัสดีค่ะควีน เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.60 เวลาบ่ายสองกว่า ได้รับแจ้งจากคุณครูว่าน้องได้รับอุบัติเหตุซึ่งเกิดจากน้องผู้ชายคนนึงได้นั่งเก้าอี้สองขาแล้วใช้มือดันโต๊ะเอียงไปด้านหน้าแล้วก็ผลักใส่ขาลูกสาวอย่างแรงมีเลือดออกเยอะมาก แต่ทางรร.ส่งตัวน้องไปคลินิกก่อนแล้วโดยให้ภารโรงพาไปหาหมอให้คุณแม่มารับน้องกลับด้วย

พอถึงรร.ผลสรุปว่าภารโรงกลับมายังรร.แล้วแจ้งว่าเงินประกันอุบัติเหตุวงเงินแค่ 6000 นอกเหนือคุณแม่ต้องจ่ายเอง เวลานั้นเราคิดในใจว่าทำไมรร.ไม่ช่วยเหลืออะไร แต่ถามเรากลับว่าคุณแม่จะเอายังไง เราเลยตัดสินใจดำเนินการเอง โดยการพาไปใช้สิทธิบัตรทอง แล้วการพาไปรพ.ก็ต้องนั่งแท็กซี่ไปเองรร.ไม่ได้จัดการอะไร อีกอย่างเราก็ไม่มีสำรองจ่ายเพราะเราอยู่กันลำพังแม่ลูกกับน้องชายอีกคน มาถึงรพ.หมอวนิจฉัยว่ากระดูกนิ้วก้อยเท้าซ้ายแตกแผลฉีกต้องได้รับการเย็บแผล เราก็ใจไม่ดีรักษาตัวอยู่สี่วันตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. 60-25มิ.ย.60 ออกจากรพ.26มิ.ย.60 ช่วงบ่ายไม่มีคุณครูหรือผู้ปกครองเด็กอีกฝ่านมาเยี่ยมเยียนหรือถามถึงอ้างว่าติดภารกิจและในวันเดียวกัน

22 มิ.ย.60 ทางคุณครูได้โทรหาผู้ปกครองเด็กช่วงเย็นแล้วโทรมาบอกเราว่าผู้ปกครองฝ่ายนั้นเขาอารมณ์โมโห หาว่าเราเยอะ เรื่องเล็กๆ แค่นี้ต้องใช้ทนายไหม จนกระทั่งออก รพ. คุณครูติดต่อกลับมาวันอังคาร แล้วแจ้งว่าทางผู้ปกครองเด็กอีกฝ่ายจะมาเจรจาในวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย 60 คือวันนี้เราก็ไปตามนัดแล้วเราขอให้เขาช่วยเหลือเพราะเราต้องขาดงานค่ารถค่าใช้จ่ายในการหาหมอ หลังจากออกรพ.เป็นเวลา 14 วันคิดตามค่าใช้จ่ายจริงที่เราต้องเสียให้ลูกทั้งการล้างแผลค่ารถไปหาหาหมอแต่ละครั้งของการล้างแผลและหมอรพ.นัดไปดูอาการเป็นจำนวนเงิน 5,000

แต่เรากลับได้คำตอบว่าด้วยประโยคที่ว่า “ถ้าจะฟ้องศาลผมพร้อมสู้ผมมีทนายส่วนตัว” เราไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น แล้วตบท้ายด้วยคำพูดว่าผมให้ค่าทำขวัญ 1,000 บาท แต่เราไม่รับเพราะเรามองถึงการรักษาพยาบาลของลูกที่เราต้องดูแลเขาคนเดียว และช่วงเวลา 14 วันที่หมอสั่งน้องต้องพักรักษา ตัวเขามีท่าทีไม่ยอม ทั้งๆ ที่คุณครูได้สอบถามเด็กที่เห็นเหตุการณ์แล้วว่าเด็กคนนั้นทำลูกเรา แล้วเขาก็ถามลูกเราว่ามีอะไรจะพูดไหมลูกเราก็บอกเขาไปว่า เด็กคนนั้นเกเร แกล้งเพื่อนมาตั้งแต่ป.2 จนตอนนี้ป.3 หนูโดนเขาต่อยด้วยหลายครั้ง แต่หนูไม่บอกครูเพราะกลัวและคนอื่นก็โดนเขาแกล้งตลอด จนมีเพื่อนในห้องคนหนึ่งโดนแกล้งจนต้องลาออกไป นี่หรอคะ คือสิ่งที่ได้กับเด็กประพฤติดีแต่เด็กที่เกเรก็ยังเกเรต่อไป

เราพอเข้าใจในตัวเด็กบางครั้งแต่นี่มันมากเหลือเกินค่ะ แกล้งคนอื่นไปทั่วจนสุดท้ายอาการที่หนักคือลูกเรา เรามองว่าผู้ปกครองน่าจะสนใจเด็กบ้าง แต่นี้ผู้ปกครองกับให้ท้ายเด็กปกป้องว่าเด็กไม่ทำเกินกว่าเหตุหรือผิดเราอยากได้รับความยุติธรรมค่ะ จากรื่องที่เกิดทางรร.ก็ไม่เยียวยาเราเช่นกัน ได้แต่เป็นตัวกลางให้เรากับผู้ปกครองท่านนั้น แล้วบอกแต่ว่าผู้ปกครองต้องคุยกันเองเรามองว่าทั้งทางรร.และ ผู้ปกครองเด็กน่าจะช่วยเรานะคะ เราลำบากค่ะ เราไม่มีเงินมากพอที่จะพาลูกไปหาหมอแต่ละครั้งลูกเดินยังไม่ได้ดีค่ะ ต้องนั่งแท็กซี่หาหมอ ถ้าเป็นเรื่องอื่นเรานั่งรถเมล์เราก็ไม่เกี่ยงค่ะ แต่นี่กระดูกแตก น้องเดินไม่ได้ เขามองเป็นเรื่องธรรมดาด้วยประโยคที่ว่าเด็กเดี๋ยวก็หาย แต่กลายเป็นทั้งสองฝ่ายบ่ายเบี่ยง เราเราอยากได้ความยุติธรรมให้ลูกเราค่ะช่วยด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

เรื่องต่อ

อ่านแล้วหัวร้อนเลย

ถึงเด็กจะแกล้งกันแต่ผู้ปกครองก็ควรจะรับผิดชอบให้มากกว่านี้

ที่มา – แหม่มโพธิ์ดำ