สูตรนี้จะเป็นแบบใส่กากหมูลงไปในไส้ด้วย และผมรับรองว่าสูตรนี้จะไม่มีเหม็นเขียวหรือไส้แข็งแน่นอน เพราะสมัยนี้บางที่จะเหม็นเขียวและค่อนข้างแข็ง แต่สำหรับผมไส้กุ้ยช่ายต้องมีรสชาติเค็มหวานในตัวเอง และต้องนิ่ม ส่วนแป้งผมไม่ได้ทำแป้งบางเฉียบนะครับ เพราะผมชอบแบบเดิมๆ คือให้มีความหนาสักนิดนึง ไส้ก็ต้องกำลังดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป ลองดูนะครับ ทำไม่ยากเลยสูตรนี้ โรยกระเทียมเจียวสักหน่อยก็จะหอมมากๆ
ส่วนผสม
1.แป้งกุ้ยช่าย 350 กรัม
2. น้ำร้อน
3. น้ำมันสำหรับใส่แป้ง 2 ช้อนโต๊ะ
4. กุ้ยช่าย ครึ่งโล
5. เกลือ 12 กรัม
6. น้ำตาล 25 กรัม
7. เบคกิ้งโซดา 6 กรัม
8. น้ำมัน 60 กรัม
9. กากหมู ประมาณ 50 กรัม
10. กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
กุ้ยช่าย
แป้งกุ้ยช่าย
กากหมู
กระเทียมเจียว
วิธีทำ
1. เจียวกากหมูเอาไว้ ส่วนน้ำมันถ้ายังไม่ใช้ก็ใส่กระปุกแช่เย็นเอาไว้ เวลาใช้ก็ตักออกมาเหมือนเนย น้ำมันหมูเวลาทำไข่เจียวนี่ ..ถือว่าเป็นที่สุดแล้ว
2. เตรียมใบกุ้ยช่าย ล้างน้ำให้สะอาด โดยเฉพาะตรงโคน มันจะมีเศษๆ ติดอยู่ ให้ล้างให้สะอาด ใบไหนดูเน่าเหลืองก็เอาออก
3. หั่นตรงโคนออกนิดหน่อย แล้วหั่นกว้างสักประมาณ 10 มม. ไม่จำเป้นต้องตัดปลายออกเหมือนต้นหอมนะครับ ใช้ได้หมดเลย
4. เตรียมเกลือ น้ำตาล เบคกิ้งโซดา และน้ำมัน ใส่ลงไปที่ใบกุ้ยช่ายได้เลย
5. ขั้นตอนนี้ก็นวดๆๆๆ ขยำให้ใบสลดนิ่มได้เลยนะครับ
6. ใส่กระเทียมเจียวกับกากหมูลงไปแล้ว คลุกให้เข้ากัน ใส่ไว้ในตะกร้าให้สะเด็ดน้ำออกมาอีก สักครึ่งชั่วโมงก็เพียงพอ
7. คราวนี้มาถึงส่วนของแป้งแล้ว ถ้าใครหาซื้อแป้งสำเร็จแบบนี้ลำบากก็ใช้วิธีเดียวกัน แต่ใช้แป้งข้าวเจ้ากับแป้งมัน อัตราส่วน 2:1 แป้งข้าวเจ้ามากกว่า
ต้มน้ำเดือดเลย แล้วค่อยๆ ผสมลงไปแล้วนวดๆ ใช้พายกวนให้เข้ากัน ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย
8. ขั้นตอนต่อไป ก็คลึงแป้งได้เลยครับ เหมือนทำขนมทั่วไป โดยแป้งมันกันติดเล็กน้อย อย่าคาดหวังว่าจะสวยมากนะครับ ไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่ 
9. ตั้งซึ้งไว้ น้ำเดือด แนะนำว่า หาใบตองมารองจะเป็นอะไรที่ดีที่สุด และน่าจะจำเป็นมากๆ มิเช่นนั้น กุ้ยข่ายจะติด ต่อให้ทาน้ำมันก็ตาม นึ่งไป 15 นาที ลูกเล็กๆ ก็ 12 นาทีก็พอ
10. น้ำจิ้ม ผมเองไม่ได้ทำอะไร เพราะโดยส่วนตัวผมคิดว่า กุ้ยช่ายรสถ้าดีๆ ก็ไม่ต้องใช้น้ำจิ้มมากมาย แต่ไหนๆ ทำให้ภรรยากิน ก็เอาแบบโบราณๆ เท่าที่ผมจำได้ มีแค่ซอสพริกกับซีอิ๊วหวานก็พอ
ยกเสิร์ฟได้เลยนะครับ โรยกระเทียมเจียวซะหน่อย
https://fillerneckfood.blogspot.com/
ขอบคุณข้อมูลรูปภาพ
สูตรจากคุณ fillerneck จากเวปพันทิพดอทคอม