อาการอาเจียนกับแหวะนมมีอาการที่ต่างกัน ซึ่งหากลูกแหวะนมออกมาเป็นเรื่องปกติ สาเหตุที่เกิดการแหวะนมคือ หูรูดบริเวณปากกระเพาะยังทำงานไม่สมบูรณ์ อาการนี้จะเกิดขึ้นหลังกินนมเสร็จแล้ว แต่การอาเจียนจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคุณแม่และเด็กแน่นนอน การที่ลูกเกิดการอาเจียนนั้นคือ อาการที่บ่งบอกถึงอวัยวะภายในของเด็กทำงานไม่ปกติ ซึ่งบางครั้งอาการอาจไม่หนักก็ได้ เพราะฉะนั้นคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการของลูกให้ดี
สาเหตุต่างๆที่ทำให้เด็กอาเจียน
- กินนมมากเกินไป
- ลำไส้และกระเพาะอาหารอักเสบ
- อาหารที่กินอาจมีสารปนเปื้อน หรือ ไม่สะอาด
- อาเจียนหลังกินยา
โรคที่คุณแม่จะต้องระวังเป็นพิเศษหากลูกอาเจียนออกมา
- ไวรัสลงกระเพาะ
- โรคระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสียหรือทานอาหารที่เป็นพิษเข้าไป
- โรคไส้ติ่งอักเสบ
- ลำไส้อุดตัน
- โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
วิธีการรักษาทางการแพทย์แบ่งออกได้เป็น 2 วิธี
- หมอจะรักษาอาการแบบเฉพาะ คือ การค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการอาเจียนแล้วทำการแก้ไขรักษาตามสาเหตุนั้น โดยคุณหมอจะตรวจร่างกายแล้วนำมาพิจารณาว่า การอาเจียนนั้นควรมีสาเหตุจากอะไรมากที่สุดและทำการรักษาต่อไป
- การรักษาตามอาการ ได้แก่ การงดรับประทานอาหารทางปากชั่วคราว ซึ่งในกรณีนี้ถ้ามีอาการขาดน้ำร่วมด้วย เช่น ปากแห้ง ผิวหนังเหี่ยวย่น เบ้าตาลึก ชีพจรเบา เร็ว ปัสสาวะน้อยลง มีสีเหลืองเข้มหรือไม่ปัสสาวะเลย หมอก็จำเป็นต้องให้น้ำเกลือเข้าทางหลอดเลือด และเมื่ออาการดีขึ้นก็จะเริ่มให้รับประทานอาหารได้
หากสังเกตง่ายๆระหว่างอาเจียนกับแหวะนมจะแตกต่างกันมาก ซึ่งการแหวะนมเด็กสามารถแหวะหลังกินนม และสามาถแหวะนมได้ทั้งวัน คุณแม่ไม่ต้องตกใจ อาหารแหวะจะมีอีกกรณีหนึ่งคือ อาการเสมหะติดคอ เพราะเด็กยังไอขับเสมหะไม่เป็น เมื่อลูกไอหรืออาเจียนแล้วมีเสมหะออกมาด้วยจะดีมาก เพราะเสมหะจะได้ไม่คั่งค้างอยู่ในปอด แต่ถ้าหากอาเจียนแล้วมีน้ำเหลืองๆออกมา อาการในลักษณะนี้เป็นอาหารที่ต้องระวัง คุณแม่ควรเข้าไปปรึกษาแพทย์โดยด่วน
ที่มา – Herkid
by TVPOOL ONLINE