เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากเหตุการณ์ที่ลูกจ้างร้านขายอาหารสัตว์นำเงินนายจ้างไปฝากธนาคาร 8 หมื่น แต่เงินเข้าบัญชีแค่ 4 หมื่น พอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบพนักงานธนาคารแบ่งเงินออกเป็นสองส่วน อีกส่วนไม่นำเข้าเครื่องนับเงิน แต่เก็บเข้าลิ้นชัก ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุดนายวชิระ อริยะพงษ์กรณ์ อายุ 41 ปี ลูกจ้างร้านจำหน่ายอาหารสัตว์แห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ร้อยเวรสอบสวน สภ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ได้เดินทางมาพบตนและนางสายสุนัย์ อู๋เพชร เจ้าของร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ พร้อมนำเอกสารแจ้งความคืบหน้าคดีมาให้ โดยเอกสารระบุว่าอีก 1 สัปดาห์ คดีดังกล่าวจะส่งยังไปยังศาล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุจนกลายเป็นคดีความนำไปสู่การจับกุมพนักงานของธนาคาร ก็ได้มีการประกัน จากนี้ก็ต้องรอดูในสัปดาห์หน้าว่าศาลจะมีการนัดเมื่อใด

ทั้งนี้ หลังจากตนได้เดินทางมาออกรายการต่างคนต่างคิด ทางช่องอมรินทร์ทีวี เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา ปรากฎว่าพอวันรุ่งขึ้น ทางพนักงานที่รับฝากและหัวหน้าฝ่าย ได้เดินทางมาหาตนและเจ้าของร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ พร้อมกับนำเงินมาให้ จำนวน 40,000 บาท พร้อมบอกว่าเป็นเงินสำหรับการเยียวยา และให้ตนและเจ้านายเซ็นต์เอกสารที่ถูกร่างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพราะมีการระบุเพิ่มเติมตอนท้ายว่า “ให้งดให้ข่าวกับสื่อมวลชน และให้ถอนแจ้งความ”

ขณะนั้น นางสายสุนีย์ นายจ้าง ก็รู้สึกไม่สบายใจต่อเงื่อนไขในสัญญาที่เซ็นต์รับเงินไป เพราะกลัวคดีจะนิ่ง จึงได้โทรศัพท์ไปยังธนาคารในวันรุ่งขึ้น เพื่อขอสำเนาเอกสารที่เซ็นต์ไปแล้ว แต่ทางธนาคารกลับไม่ยอมให้ จึงได้ปรึกษาทนายความพร้อมได้รับคำแนะนำให้เอาเงินดังกล่าวไปคืนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะดูจากเจตนาแล้วไม่ใช่เรื่องที่ดี ทางนายจ้างก็ปฏิบัติตามและให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ประสานให้คู่กรณีมารับเงิน

นอกจากนี้ นายวชิระ กล่าวว่า ขณะนี้ตนสบายดี สบายใจขึ้น ใช้ชีวิตตามปกติ นายจ้างก็ให้ความไว้วางใจตนมากขึ้น รวมไปถึงห่วงใยความเป็นอยู่ของตนอย่างดี  ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้บตน ถือว่ามีประโยชน์มาก เพราะได้มีชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่า เดี๋ยวนี้จะนำเงินไปฝากธนาคารก็จะตรวจนับให้ดี เพราะกลัวว่าเงินจะหายเหมือนกับเหตุการณ์ที่ตนเจอ

ที่มา – amarintv