เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เป็นเรื่องเป็นราวที่ทำให้ชาวพุทธหลายคนต้องรู้สึกแย่ เมื่อมีพระในไทย เกิดเรื่องเกิดราวจนมีข่าวฉาว ทำเอาให้หลายคนรู้สึกเสื่อมศรัทธากับพระไทยบางรูป วันนี้ทีวีพูลขอย้อนพาไปดู 5 พระดังที่เป็นข่าวจนหลายคนให้ความสนใจ

นายวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ถูกศาลแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีคำสั่งให้ส่งตัวเณรคำ ซึ่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ทำให้เราหวนนึกถึงเหตุการณ์สุดฉาว ที่เกิดขึ้นกับวงการผ้าเหลือง ซึ่งวันนี้เราจึงจะพาไปย้อนรอย 5 พระดัง ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในอดีต ดังนี้

หลวงปู่เณรคำ หรือวิรพล สุขผล
เณรคำ หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก อดีตพระชื่อดังที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในข่าวอยู่ในขณะนี้ ในอดีตดำรงตำแหน่งประธานสงฆ์วัดขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ โดยในปี พ.ศ.2556 คณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานีและคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษได้ขับพระวิรพลออกจากสมณเพศ เนื่องจากผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง ได้แก่เสพเมถุนจนต้องอาบัติปาราชิก และมีผู้เผยภาพในหลากหลายอิริยาบทที่ไม่เหมาะสม เช่น ภาพเณรคำอยู่บนเครื่องบินส่วนตัว พร้อมสวมแว่นตาดำและถือกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง หรือถ่ายภาพคู่กับภาพถ่ายแนบไปกับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือชูสองนิ้วในศูนย์การค้า

หลังจากนั้นก็ได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเณรคำ พบว่ามีการใช้เงินมากกว่า 95 ล้านบาทซื้อรถเบนซ์ถึง 22 คัน จึงถูกอายัดทรัพย์สินจำนวน 60 รายการ หลังจากนั้นเณรคำจึงได้หลบหนีไปอยู่ที่สหรัฐฯ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา หลวงปู่ได้เดินทางกลับจากสหรัฐฯ มาประเทศไทย เมื่อศาลแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีคำสั่งให้ส่งตัวเณรคำ ซึ่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย และถูกตำรวจตั้งข้อหา 5 ข้อหาคือ 1.พรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี 2.กระทำชำเราเด็กหญิง 3.ฉ้อโกงประชาชน 4.ความผิดฐานฟอกเงิน 5.ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

เณรแอ หรือนายหาญ รักษาจิตร์

 

เณรแอ บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดหนองระกำ จ.สระบุรี อยู่นานหลายปี แม้ว่าอายุจะถึงวัยที่ต้องอุปสมบทเป็นพระภิกษุ แต่ก็ไม่ยอมบวชเป็นพระภิกษุ และได้ร่ำเรียนเรื่องไสยศาสตร์จากอาจารย์เขมรจนช่ำชอง มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องเสน่ห์ยาแฝด การปลุกเสกเครื่องรางของขลัง โดยเณรแอถูกจับครั้งแรกในปี 2537 เพราะได้ลงมือย่างศพเด็กเพื่อทำกุมารทองที่ใต้ถุนเมรุวัดหนองระกำ จนต้องไปนอนในคุกถึง 1 ปีเต็ม ในข้อหาอุตริมนุษยธรรมที่ไม่มีตัวตน

หลังจากพ้นโทษมาแม้จะไม่ได้ครองผ้าเหลืองแล้ว แต่ก็ยังไม่เข็ด เพราะเมื่อปี 2548 เณรแอก็ถูกจับอีกครั้ง เนื่องจากมีพฤติกรรมต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชน และยังหลอกขืนใจหญิงสาวโดยอ้างเรื่องไสยศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งสุดท้ายศาลพิพากษาจำคุกเณรแอเป็นเวลา 100 ปี แต่คำให้การของจำเลยมีประโยชน์ จึงลดโทษให้เหลือจำคุก 75 ปี ซึ่งตามกฎหมายเมื่อลงโทษจำคุกจำเลยทุกกระทงความผิดแล้ว จำคุกได้ไม่เกิน 20 ปี ซึ่งสุดท้ายในปี 2558 เณรแอก็ได้รับอิสรภาพอีกครั้ง เนื่องจากได้รับการอภัยโทษ

พระครูใบฎีกานิกร ธรรมวาที (นายนิกร ยศคำจู)

พระนิกรอดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสันปง จ. เชียงใหม่ ซึ่งเปิดสำนักปฏิบัติธรรมหลายสิบแห่งทั่วประเทศ แต่ในปี 2533 อดีตพระนักเทศน์รายนี้ได้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งได้ออกมาเผยว่าตนเองนั้นมีความสัมพันธ์กับพระนิกร จนมีลูกด้วยกัน ซึ่งในตอนแรกพระนิกรออกมาปฏิเสธเสียงแข็ง และอ้างว่าตนถูกกลั่นแกล้งเนื่องจากมีผู้อิจฉาในชื่อเสียง แม้จะมีทั้งจดหมายรัก หรือภาพถ่าย ที่เป็นหลักฐานออกมา แต่พระนิกรก็ไม่ยอมถอดผ้าเหลือง และยังมีผู้เลื่อมใสอยู่เป็นจำนวนมาก จนสุดท้ายถูกดำเนินคดีทั้งศาลยุติธรรมและศาลสงฆ์ โดยมีความผิดฐานเสพเมถุน ให้พ้นจากความเป็นพระ

โดยในกระบวนการของศาลยุติกรรมก็ถูกข้อหาแจ้งความเท็จ เนื่องจากพระนิกรไปแจ้งความว่าถูกหญิงที่แสดงตนว่ามีความสัมพันธ์จนมีลูกข่มขู่จะเอาเงิน และบังคับให้เข้าพิธีผูกข้อมือแต่งงาน โดยที่ตนไม่เต็มใจ ปัจจุบันเสียชีวิตด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก ด้วยวัย 61 ปี

พระยันตระ อมโรภิกขุ (พระวินัย อมโร) หรือ นายวินัย ละอองสุวรรณ

พระยันตระ อดีตพระนักปฎิบัติธรรมชื่อดังที่เป็นที่เคารพเสื่อมใสของชาวไทยและชาวต่างชาติ ก่อนที่ปี 2537 จะถูกฟ้องร้องหลายข้อหา รวมถึงข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ จึงถูกมติมหาเถรสมาคมพิจารณาอธิกรณ์ปรับให้พ้นจากความเป็นพระภิกษุ แต่พระยันตระไม่ยอม พร้อมกับเปลี่ยนสีจีวรเป็นสีเขียว สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากในสมัยนั้น และสุดท้ายก็ได้ลักลอบทำหนังสือเดินทางปลอมเพื่อใช้ในการหลบหนีไปอยู่ประเทศสหรัฐฯ และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง ทำให้นายวินัยสามารถหลบหนีคดีความอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จนถึงปัจจุบัน

พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย

ไม่เอ่ยถึงคงไม่ได้ เพราะกลายเป็นข่าวครึกโครมมาตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และประธานมูลนิธิธรรมกายนั้นอยู่ที่ไหน หลังจากที่มีการตรวจสอบความโปร่งใสทางการเงินของพระในวัดธรรมกาย รวมไปถึงโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดธรรมกาย ประเด็นการยักยอกทรัพย์ และการบริหารเงินบริจาค โดยในปี 2558 คณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตราการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา เสนอให้ ปปง. อายัดทรัพย์พระธัมมชโย พร้อมกับตรวจสอบที่ดินวัดธรรมกาย ซึ่งปัจจุบันพระธัมมชโย ได้ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร

หลังจากที่ตกเป็นผู้ต้องหาพระธัมมชโยก็ไม่เคยเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย เนื่องจากอ้างว่าอาพาธหนัก จนรัฐบาลต้องใช้มาตรา 44 เพื่อเข้าไปปิดล้อมและตรวจค้นวัดพระธรรมกายเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เห็นแม้เงาของพระธัมชโยแต่อย่างใด

ที่มา – spokedark.tv