เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีที่ น.ส.ลลดา เอนกพงษ์ อายุ 30 ปี เจ้าของร้านรุ่งโรจน์ ขายของเบล็ดเตล็ด ตั้งอยู่ที่ตลาดบ้านฉาง ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ้านฉาง จ.ระยิอง ว่ามีชายอ้างตัวเป็นตำรวจ ยศ ร.ต.ท.สุธีร์ อัจฉริยะรัตน์ สังกัดภาค 2 พร้อมพวกรวม 10 คน ได้เข้ามาจับกุมลิขสิทธิ์โดยกล่าวหาว่าขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ โดยขู่ว่ามีความผิดทางกฎหมายและจะต้องเสียค่าปรับสุงถึง 4 แสนบาท แต่ถ้าจ่ายเลยตอนนี้จะเหลือแค่ 3 หมื่นบาท โดยให้ นายสมเดช เอนกพงษ์ อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นพ่อ นำเงินใส่ซองไปไว้ในรถยนต์ที่จอดใต้ต้นไม้หน้า สภ.บ้านฉาง แล้วก็บอกให้กลับบ้านไปโดยไม่มีใบเสร็จและไม่ยอมให้จ่ายต่อหน้าร้อยเวร สภ.บ้านฉาง เช่นเดียวกับร้านไทยผลที่อยู่ติดกัน โดยนายมานิตย์ ฉางชูโต อายุ 71 ปี เจ้าของร้านขายกระเป๋า ก็ถูกเข้าค้นโดยกลุ่มคนชุดเดียวกัน และกล่าวหาข่มขู่ในลักษณะเดียวกัน จนสุดท้ายลดราคาให้จ่ายเงิน 15,000 บาท แล้วก็จบเรื่อง

ต่อมาได้เข้าแจ้งความไว้กับพ.ต.ท.สุพจน์ สวนสอน สารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านฉาง เพื่อตรวจสอบบุคคลดังกล่าวและติดตามตัวเพื่อตรวจสอบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ เพื่อจะดำเนินคดีในข้อหากรรโชกทรัพย์ต่อไป ด้าน พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 ได้สั่งการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพื่อจะสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 24 ก.ค. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ที่แอบอ้างตัวเป็นตำรวจยศ ร.ต.ท.สังกัดภาค 2 หลังตรวจสอบพบว่าเป็นตำรวจจริง ชื่อ ร.ต.อ.สุธีร์ อัจฉริยะรัตน์ สังกัดฝ่ายสืบสวนสวนตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งล่าสุดได้มีคำสั่งให้ย้ายมาประจำที่หน่วย ศปก.ภาค2 และได้ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

ด้านพ.ต.อ.จักรกรินทร์ ทั่วสุภาพ ผกก.สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง กล่าวว่า เบื้องต้นหลังจากที่ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหาย ได้ตรวจสอบแล้วก็พบว่า เป็นตำรวจจริง อยู่สังกัดฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งก็จะดำเนินตามขั้นตอนตามกฎหมาย โดยจะมีการติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป

ขณะที่ น.ส.ลลดา แม่ค้าสาวที่ถูกแก๊งอ้างตำรวจรีดเงินไป เปิดเผยว่าได้มีการประสานกับทางศูนย์ดำรงธรรมแล้ว แต่ขณะนี้ทางครอบครัวหวาดผวาหนักหลังจากที่มีการเปิดโปงแจ้งความไปและทราบตัวว่าเป็นตำรวจจริง ก็มีการโทรเข้ามาข่มขู่ จนทำให้ตนไม่กล้าออกไปไหนตามลำพัง และต้องเก็บตัวเพราะหวั่นจะไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะพ่อและแม่ที่แก่มากแล้ว ต่างก็กลัวและเป็นห่วงไม่ยอมให้ตนออกไปไหน จึงทำให้ไม่กล้าเข้าไปที่ศูนย์ดำรงธรรม แต่ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว และต้องการขอความเป็นธรรม โดยต้องการให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา เพราะกลัวจะมีการเข้าข้างกัน

ด้านนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชค ผวจ.ระยอง ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทางอำเภอบ้านฉาง จ.ระยอง เข้าช่วยประสานงานกับตำรวจเพื่อดูแลเรื่องคดี พร้อมทั้งให้ดูแลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยหลังจากที่แจ้งว่ามีการข่มขู่คุกคาม ก็ขอให้สบายใจได้ เพราะได้ประสานให้ทางตำรวจและทางอำเภอบ้านฉางเข้าดูแล ส่วนเรื่องคดีก็มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้วก็ขอให้มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ความเป็นธรรมอย่างแน่นอน

Cr. ข่าวสด

TV Pool OnlineTV Pool Online