1. Kawachi Wisteria Garden (河内藤園) [Fukuoka]
สถานที่แรกนี้ อยู่ที่ Kitakyushu (北九州市) ในฟุกุโอกะ เป็นสวนดอก Wisteria ที่มีพื้นที่ถึง 6,000 ตารางเมตร และได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 10 Beautiful Places In The World That Actually Exist อีกด้วย
เวลาที่เหมาะแก่การมาชมคือช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม Wisteria กว่า 150 ต้น 20 สายพันธุ์จะบานจนเป็นทิวทัศน์ที่งดงาม ใครที่อยากได้รูปสวยๆ แล้วละก็ ต้องถ่ายที่อุโมงค์ดอก Wisteria ซึ่งมี 2 แบบคือ แบบยาว 80 เมตรและแบบยาว 220 เมตร
2. Nemophila (ネモフィラ) [Ibaraki]
ทุ่งดอก Nemophila นี้อยู่ในสวน Hitachi Seaside Park (ひたち海浜公園) ที่เมือง Hitachinaka จังหวัด Ibaraki แต่เดิม Nemophila เป็นพืชล้มลุกที่มีถิ่นกำเนิดมาจากอเมริกาเหนือ
เวลาที่เหมาะแก่การมาชมคือช่วงปลายเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม ดอก Nemophila จะบานเต็มเนิน จนมองดูเหมือนพรมสีฟ้า
3. บึงห้าสี (五色沼) [Fukushima]
บึงห้าสี หรือ Goshikinuma อยู่ที่ Kitashiobaramura จังหวัด Fukushima เป็นกลุ่มบึงที่ประกอบไปด้วยบึงน้อยใหญ่หลายบึงเช่น Bishamon-numa (毘沙門沼), Aka-numa (赤沼), Midoro-numa (みどろ沼), Benten-numa (弁天沼), Ruri-numa (瑠璃沼), Ao-numa (青沼) [numa แปลว่า บึง] ซึ่งแต่ละบึงนั้นต่างก็มีความสวยงามต่างกันไป
สีและความสวยงามของบึงนอกจากจะขึ้นอยู่กับแร่ในดินใต้บึงและความลึกของบึงแล้ว ยังขึ้นอยู่กับจุดที่มองและช่วงเวลาอีกด้วย เป็นบึงที่ไม่ธรรมดาเลยใช่มั้ยละคะ ต้องไปพิสูจน์ดูด้วยตัวเองซะแล้ว
4. Blue Pond (青い池) [Hokkaido]
บ่อน้ำสีฟ้า หรือ Aoi-ike ในเมือง Biei (美瑛町) จังหวัด Hokkaido เป็น view point ที่ทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติให้ความสนใจมาเยี่ยมชม ความสดใสของสีฟ้าที่มองเห็นจะต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแสงแดด จุดที่มอง และฤดูกาลอีกด้วย
สำหรับสาเหตุที่ทำให้น้ำในบ่อมีสีฟ้าสดใสได้ขนาดนี้ แม้ว่าจะตรวจสอบแร่ธาตุในน้ำแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้อย่างแน่ชัด ซึ่งความมหัศจรรย์นี้เองที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเยี่ยมชม
5. Blue Cave (青の洞窟) [Okinawa]
ไม่ใช่แค่ที่อิตาลี ที่ญี่ปุ่นก็มีถ้ำสีน้ำเงินเช่นกัน ซึ่งแหลมที่ว่านี้อยู่ที่แหลม Maeda (真栄田岬) ในโอกินาวา เป็นจุดดำน้ำที่ได้รับความนิยมมาก เพราะไม่เพียงมีวิวที่สวยงามแล้ว ยังเป็นแหล่งดูปลาและปะการังอีกด้วย
แสงที่ลอดเข้ามาจากปากถ้ำ ส่องผ่านน้ำทะเลใส กระทบกับทรายขาวใต้ทะเล แล้วสะท้อนกลับขึ้นมา ทำให้เห็นน้ำทะเลและถ้ำเป็นสีฟ้า เป็นภาพที่สวยงามจนต้องอยากถ่ายเก็บไว้
6. Nabegataki (鍋ヶ滝) [Kumamoto]
น้ำตกนี้อยู่ที่เมือง Okuni (小国町) จังหวัด Kumamoto น้ำตกมีความสูง 9 เมตร กว้าง 20 เมตร สามารถเข้าไปดูน้ำตกจากภายในถ้ำน้ำตกได้ ซึ่งบอกเลยว่า ภาพที่เห็นจากภายนอกและภายในน้ำตกนั้นมีความสวยต่างกันโดยสิ้นเชิง
แม้ว่าจะเป็นน้ำตกที่ไม่ใหญ่มาก ดูไม่ยิ่งใหญ่เหมือนน้ำตกที่อื่น แต่ม่านน้ำและธรรมชาติโดยรอบที่งดงามก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี เพียงแค่มองก็รู้สึกผ่อนคลาย
7. Tsunan Snow Festival (津南雪祭り) [Niigata]
เทศกาลโคมลอยนี้จัดขึ้นทุกปีที่เมือง Tsunan (津南町) จังหวัด Niigata ในชื่อเทศกาล Tsunan Snow Festival โคมลอยจำนวนมหาศาลท่ามกลางหิมะ เป็นบรรยากาศที่งดงามราวกับอยู่ในความฝัน
งานเทศกาล Tsunan Snow Festival ในปีนี้ จะจัดขึ้นในวันที่ 12 มีนาคม 2016 ใครที่กำลังวางแผนมาญี่ปุ่นเร็วๆ นี้ พลาดไม่ได้เลยนะคะ
8. Tsunoshima Bridge (角島大橋) [Yamaguchi]
สะพาน Tsunoshima อยู่ที่เมือง Shimonoseki (下関市) จังหวัด Yamaguchi มียาวถึง 1,780 เมตร หลังจากที่สร้างเสร็จในปี 2000 ก็ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครมา Yamaguchi ก็ต้องไม่พลาดมาถ่ายรูปสะพานนี้
ทะเลสีเขียวมรกตและสะพานยาวที่ดูเหมือนทอดไปไม่มีที่สิ้นสุด เป็นภาพที่งดงามจนอยากไปถ่ายรูปด้วยตัวเองสักครั้ง
9. Takeda Castle (竹田城) [Hyogo]
Takeda Castle อยู่ที่เขต Asago (朝来市) จังหวัด Hyogo อยู่บนเขาสูง 350 เมตร ปราสาทบนเขาท่ามกลางทะเลหมอก ดูเหมือนเป็นปราสาทลอยฟ้านี้ ได้ชื่อว่าเป็น Machu Pichu ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ใครที่อยากมาดูบรรยากาศที่งดงามนี้ แนะนำให้มาตั้งแต่เช้ามืดของปลายเดือนกันยายนถึงเดือนเมษายน รับรองว่าได้ภาพสวยๆ กลับไปแน่นอน
10. Mone no Ike (モネの池) [Gifu]
Mone no Ike อยู่ภายในศาลเจ้า Nemichi (根道神社) จังหวัด Gifu เดิมเป็นบ่อน้ำที่ไม่มีชื่อ แต่ด้วยความงดงาม จึงถูกขนานนามให้เป็น บ่อของโมเนต์
น้ำใสๆ ในบ่อและสี เข้ากันอย่างลงตัวกับปลาและพืชน้ำ ดูงดงามคล้ายกับภาพเขียนของจิตรกรชื่อดัง โมเนต์ เป็นที่มาของชื่อบ่อแห่งนี้
สถานที่ที่แนะนำในวันนี้ แต่ละที่ต่างก็สวยมากเลยใช่มั้ยละคะ แม้ว่าบางที่จะดูได้แค่บางช่วงเวลาของปีเท่านั้น แต่ถ้ามีโอกาสในช่วงนั้นแล้วละก็ อย่าพลาด ไปดูแล้วถ่ายรูปเก็บมาให้ได้เลยนะคะ
ที่มา: retrip