เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อดีตกองกลางตัวรับทีมชาติไทยทั้งในระดับเยาวชนและทีมชาติไทยชุดใหญ่ รวมไปถึงการโลดแล่นจนเป็นตำนานสโมสรฟุตบอลโอสถสภา บั้นปลายชีวิตในวัย 36 ปี ของการค้าแข้งเจ้าตัวหวังที่จะสู่ต่อเพื่อใช้ฟุตบอลดูแลครอบครัวที่เวลานี้มีภาระต้องดูแลหลายอย่าง

โดย กอบเดช ชอบมโนธรรม ได้เผยถึงชีวิตก่อนตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพว่า “ต้นปีที่ผ่านมาผมไปที่ไหนเขาก็บอกว่าเราอายุเยอะทั้งๆที่เราไม่ได้เรียกค่าเหนื่อยสูงเกินไป ก่อนตลาดปิดผมดิ้นรนสุดชีวิตทั้งโทรหาคนรู้จักและคนที่เคยร่วมงานกัน สุดท้ายเวลามันหมุนเร็วจนผมตัดสินใจเลือกที่จะแยกทางกับมัน แต่ชีวิตต้องเดินต่อเพราะผมมีครอบครัวต้องดูแลภาระอีกมากมายเงินเก็บที่มีอยู่อยากเก็บไว้ให้ลูกได้เรียนในอนาคต จนสุดท้ายต้องไปยึดอาชีพขับแท็กซี่บางวันก็ได้เงินบางวันก็แทบจะไม่เหลือ พร้อมกับช่วยแฟนส่งเบเกอรรี่และข้าวแกงไปด้วยในช่วงเวลานั้น”

“มันเป็นชีวิตที่เหนื่อยแต่ผมก็ภูมิใจที่เรายังอยู่ในเส้นทางอาชีพสุจริต ตลอดชีวิตเราอยู่กับฟุตบอลขับรถแท๊กซี่ไปผมก็คิดไปหลายเรื่อง ยังโชคดีอยู่บ้างที่มีผู้มีพระคุณดึงผมกลับมาสู่ถนนฟุตบอลแม้ว่าจะไม่ใช่นักเตะอาชีพที่ผมถนัด แต่ผมได้เริ่มงานด้านโค้ชเรียนรู้มันหลายอย่างๆจากเด็กๆ ผ่อนคลายความเครียดมีฝันมีไฟขึ้นมาอีกครั้ง ต้องขอบคุณเจ้าของสนามเพลย์เมกเกอร์ รามอินทรา ที่ให้ผมได้โอกาสกับบทบาทใหม่ พอมีรายได้ดูแลครอบครัว ซึ่งในการแข่งขันฟุตบอลกึ่งอาชีพของไทยโอกาสการเป็นโค้ชครั้งแรกของผมกับสโมสรฟุตบอล เพลย์เมกเกอร์ ยูไนเต็ด ในฟุตบอลกึ่งอาชีพ อเมเจอร์ ลีก 2017 จะเริ่มขึ้นอย่างเต็มตัว บทเรียนทั้งหมดของฟุตบอลอาชีพมันสอนอะไรได้หลายอย่าง”

สำหรับ กอบเดช ชอบมโนธรรม เป็นชาว จ.สมุทรปราการ โด่งดังตั้งแต่ระดับเยาวชนกับทีม ร.ร.ปานะพันธ์,พาณิชยการราชดำเนิน ธนบุรี จนขยับไปติดทีมชาติไทย ชุดเยาวชน 19 ปี ,ปรี อลป. และ ทีมชาติไทย ชุด คิงส์ คัพ พร้อมทั้งเป็นลูกหม้อของสโมสร โอสถสภา และลงเล่นให้กับอีกหลายๆทีม อาทิ การไฟฟ้า, เชียงราย ยูไนเต็ด, ทีทีเอ็ม พิจิตร, อ่างทอง เอฟซี, อุบล ยูเอ็มที , ลำปาง เอฟซี ก่อนที่จะปิดท้ายการค้าแข้งกับทีม ตรัง เอฟซี

TV Pool OnlineTV Pool Online