เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. มีการแถลงผลจับกุมนายคิม ฮยอง จุน สัญชาติเกาหลี อายุ 39 ปี ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีค้ามนุษย์ได้เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา และในช่วงบ่ายวันนี้ จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญา ทั้งนี้ คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากมูลนิธิสตรีไทยได้ประสานมายังดีเอสไอให้เข้าช่วยเหลือจนมีการประสานกับทางตำรวจเกาหลีจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวเกาหลีได้ 8 ราย ในข้อหาค้ามนุษย์ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีผู้หญิงไทยหลายรายหลบหนีเข้าไปทำงานที่ประเทศเกาหลีและถูกหลอกให้ค้าประเวณีโดยกลุ่มของนายคิมฮยอง จุน และพรรคพวกที่อยู่ในประเทศเกาหลี ซึ่งกลุ่มญาติของหญิงที่ตกเป็นเหยื่อได้ไปขอความช่วยเหลือจากสถานฑูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย จากการสืบสวนหาข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าว ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และสำนักอัยการประเทศเกาหลีพบว่า คดีดังกล่าวมีการกระทำในลักษณะขบวนการอาชญากรรม และนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย คือนายคิม ฮยอง จุน และหญิงไทย 1 ราย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว

“นายคิมฮยอง จุน เป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่ทางการเกาหลีต้องการตัว มีหมายจับหลายคดีและมีชื่ออยูในแบล็คลิสต์ของอินเตอร์โพลในข้อหาค้ามนุษย์ จากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีหมายจับจากประเทศเกาหลีเข้ามาอยู่ในไทยได้ 3 ปีแล้ว สำหรับคดีนี้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ 2 ราย โดยนายคิมทำหน้าที่เป็นตัวกลางส่งหญิงไทยไปต่างประเทศและจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด อ้างว่าจะส่งไปทำงานนวดแผนไทยแต่กลับถูกบังคับให้ค้าประเวณีทางทวารหนัก ไม่ให้สวมถุงยางอนามัย ยึดหนังสือเดินทาง และมีผู้คอยควบคุมไม่ให้หลบหนีได้” รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.คมวิชช์ กล่าวว่า ขอเตือนหญิงไทยที่จะเดินทางไปทำงานประเทศเกาหลีว่า อาชีพหมอนวดหรือนวดแผนโบราณเป็นอาชีพสงวนของคนพิการเกาหลีเท่านั้น หากมีการชักชวนให้ไปทำงานอาชีพดังกล่าวถือมีความผิดตามกฎหมาย และฝากไปยังหญิงไทยที่ถูกชักจูงผ่านไลน์หรือเฟชบุ๊กให้ไปทำงานยังประเทศเกาหลีให้ระมัดระวัง ซึ่งพบข้อมูลถูกหลอกเพิ่มสูงขึ้นเป็นจำนวนมาก

Cr. ข่าวสด

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online