จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวีดีโอ ซึ่งเผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะที่หนุ่มใหญ่รายหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ด้วยท่าทางหวาดเสียว โดยใช้มือทั้งสองข้างจับอยู่ที่ใบหู และใช้เท้ายันไปที่คอรถจักรยานยนต์ และยังมีการหันซ้ายหันขวา รวมถึงเอนตัวลงนอนบนเบาะรถอย่างสบายๆ โดยมีผู้ที่ขับรถอยู่บนถนนเห็นเหตุการณ์แล้วถ่ายไว้ได้ เหตุเกิดบนถนนรัตนาธิเบศร์ใกล้แยกพระนั่งเกล้า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจากภาพคลิปวีดีโอดังกล่าวพบว่า เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นนูโว สีน้ำเงิน-แดง ทะเบียน ลวฉ 425 กทม. ทราบชื่อผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวคือ น.ส.เสาวภา แสงสุวรรณ จึงได้มีการติดตามสอบถามจนทราบว่าผู้ขับขี่รถในวันนั้นคือสามีของผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวเอง ทราบชื่อคือนายธิติศักดิ์ นาคดี หรือ น้อย อายุ 40 ปี อาชีพค้าขายอยู่ย่านประตูน้ำ จากนั้นได้ประสานให้ผู้ขับขี่เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำการสอบปากคำพร้อมทั้งเปรียบเทียบปรับ
จากการสอบถาม นายธิติศักดิ์ เผยว่า ในวันเกิดเหตุตนขับรถมาจากบ้านที่ถนน 345 เพื่อจะไปทำงานที่ย่านประตูน้ำ โดยก่อนหน้านี้รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวสายคันเร่งมันขาด ตนจึงได้ซ่อมเปลี่ยนจากสายผ่อนมาเป็นสายคันเร่งด้วยตัวเอง ในวันเกิดเหตุปรากฎว่าสายมันแข็งเมื่อตนบิดคันเร่งไปทำให้มันค้าง ซึ่งตนไม่รู้มาก่อนว่าสายคันเร่งจะค้าง เพิ่งเป็นครั้งแรก ตนไม่ได้คิดอะไรว่าเป็นอันตรายเพราะพยายามจะขับเข้าซ้าย
ในขณะที่ขับเป็นช่วงที่ไม่มีรถและเป็นจังหวะที่ตนขยับตัวมาอยู่กลางรถ พบว่ารถสามารถทรงตัวได้ตนจึงทดลองการทรงตัวดู แต่มันไม่ปลอดภัย ตนต้องขอโทษด้วยที่ทำแบบนั้นด้วยความประมาท มันไม่ปลอดภัย ตนจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วคงเป็นครั้งเดียว ตนรับสารภาพที่ทำไป ตอนนี้ก็รอเสียค่าปรับแต่ไม่รู้เท่าไหร่
ด้าน พ.ต.ท.ธีรพัฒน์ จิตวรธรรม สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า ครั้งแรกที่เห็นตนสงสัยว่าคนขับเร่งคันเร่งได้อย่างไร พอเห็นทะเบียนจึงได้ให้ทางจราจรตรวจสอบและติดตามตัวมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าผู้ครอบครองเป็นผู้หญิงส่วนผู้ขับขี่เป็นสามีจึงประสานให้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบปากคำพบว่าผู้ขับขี่มีความรู้เรื่องช่างมีการปรับเปลี่ยนเองจนรถเกิดคันเร่งค้างดังกล่าว และปรากฏเป็นภาพที่เห็นในคลิป โดยได้มีการนำช่างซ่อมรถมาตรวจสอบสภาพรถแล้วยืนยันว่าคันเร่งค้างจริง จึงได้ให้สารวัตรจราจรดำเนินคดีในข้อหาขับรถประมาทหวาดเสียว และขับรถโดยไม่สวมหมวกนิรภัย ระวางโทษปรับตั้งแต่ 400 บาทแต่ไม่เกิน 1,000 บาท ก่อนจะทำการว่ากล่าวตักเตือนไป ซึ่งการขับขี่รถแบบนี้ถ้าเกิดการผิดพลาดอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ขับขี่และผู้อื่นได้