เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เป็นเรื่องเหลือเชื่อจนไม่คิดว่าจะมีจริง เมื่อคณะลูกขุนรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สั่งบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จ่ายค่าเสียหายจำนวน 417 ล้านดอลลาร์ (13,837 ล้านบาท) แก่หญิงวัย 63 ปี ที่อ้างว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่ หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์แป้งเด็กของจอห์นสัน ทาที่บริเวณของสงวนนานหลายสิบปี นับเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของประชาชนผู้บริโภค ที่มีต่อบริษัทผู้ผลิตสินค้า

สำนักข่าวรอยเตอร์ เอพีและเอเอฟพี รายงานจากนครลอสแอนเจลีส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ว่า คำตัดสินของคณะลูกขุนศาลสูงลอนแอนเจลีส เมื่อวันจันทร์ ที่ให้นางอีวา เอเชเวอร์เรีย ผู้เป็นโจทก์ ชนะคดี นับเป็นคดีฟ้องร้องรายใหญ่สุด ที่กล่าวหาบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หรือ เจแอนด์เจ ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมยา เครื่องมือแพทย์ และสินค้าอุปโภคบริโภคแห่งสหรัฐ ว่าไม่เตือนผู้บริโภคเพียงพอ เกี่ยวกับความเสี่ยงต่อมะเร็ง จากผลิตภัณฑ์แป้งโรยตัวของบริษัท

ค่าเสียหายตามที่ศาลสั่งจ่าย แยกเป็น 70 ล้านดอลลาร์สำหรับค่าชดเชยความเสียหาย (compensatory damages) และอีก 347 ล้านดอลลาร์สำหรับค่าเสียหายเพื่อเป็นการลงโทษ (punitive damages)

เอเชเวอร์เรีย กล่าวว่า เธอใช้แป้งเด็กจอห์นสันเพื่อสุขอนามัยสตรีทุกวัน เริ่มตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1950 จนถึงปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) และแพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรคมะเร็งรังไข่ระยะสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ. 2550 โดยเธอให้ทนายความเป็นตัวแทนยื่นฟ้องศาลเรียกค่าเสียหาย เมื่อเดือน ก.ค. ปีที่แล้ว

คดีนี้ทีมทนายความของนางเอเชเวอร์เรีย ให้เหตุผลว่า เจแอนด์เจกระตุ้นให้ผู้หญิงใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท แม้จะรู้ว่าผลการศึกษาบ่งชี้ความเชื่อมโยงระหว่างมะเร็งรังไข่ กับการใช้แป้งฝุ่นบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ขณะที่ทีมทนายความของเจแอนด์เจโต้แย้งว่า ผลการศึกษาหลายชิ้น และหลายหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ ไม่พบว่าผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นทำให้เกิดมะเร็ง

ที่มา – dailynews