เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เป็นอีกเรื่องราวที่ควรศึกษาและรู้ไว้ ว่าการที่เราจะกินอะไรแต่ละที ต้องคิดให้ดีก่อน ชอบทานของดิบ ชอบทานของสด ตามใจปาก ซึ่งหลายคนอาจจะมองเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อถึงจุดที่ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ ก็อาจจะทำให้คุณป่วยได้เช่นกัน ผลที่ตามมาอาจหลายแรงกว่าที่คิด เมื่อเฟซบุ๊ก “Panwanpat Boonthiam” ได้โพสต์เรื่องราวที่มีอยู่ว่า

คนถามมาเยอะเลยว่าเฟิร์นเป็นอะไร
 – เป็นโรคร้ายอะไรรึป่าว?
 คำตอบคือ เฟิร์นไม่ได้เป็นโรคร้ายอะไร เพียงแต่ใครที่เป็นแบบนี้คงจะทรมานไม่ใช่น้อยเลย ไม่เลือกทาน ชอบทานของดิบ ชอบทานของสด ตามใจปาก ทานผิด ชีวิตเปลี่ยนทันที กินแล้วไม่เป็นอะไรก็โชคดีไป แต่ถ้าวันนึงไม่โชคดี ไม่มีภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ ก็รับความทรมานนี้ไปเต็มๆ

ก่อนที่จะแอดมิดเข้ารพ.ปทุมเวช ในตอนตี 1 ของวันเสาร์ ก่อนหน้านี้วันศุกร์มีอาการร้องเสียถ่ายไม่หยุดตั้งแต่เช้าจึงไปหาหมอที่คลินิก หมอบอกว่าเราอาหารเป็นพิษ หลังจากนั้นอาการก็ไม่ดีขึ้น ถ่ายทั้งวันตั้งแต่เช้าจนมืด คือลุกเข้าห้องน้ำทั้งวันถ่ายจนหมดแรง เลยรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวแล้วหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ

แต่ก่อนที่จะถ่ายหนักขนาดนี้กลางวันกินผัดไทใน Food Center (ของที่ฝึกงาน)

ตอนเย็นกินส้มตำกุ้งสด(ของโปรด) ในใจก็คือว่าอ่อแค่อาหารเป็นพิษถ่ายแล้วเดี๋ยวก็คงหาย แต่ผิดคลาดถ่ายหนักกว่าเดิมมีอาการอาเจียนเพิ่มขึ้นมาแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกจนต้องแอดมิดทันที หลังจากแอดมิดก็ยังไปถ่ายที่รพ.แบบต่อเนื่องลุกทั้งคืนถ่ายจนต้องต่อสาย Oxygen ถ่ายจนเป็นลมในห้องน้ำ ถ่ายหนักจนหมอเอาขอเอาอุจจาระไปตรวจเพื่อจะเข้าห้อง Lab ศึกษาว่าเป็นอะไรกันแน่ ปรากฏว่าเป็น

-ลำไส้อักเสบ

-โรคกระเพาะ

-กรดไหลย้อน

อาจจะคุ้นชื่อกันดีแต่ระวังอย่าให้ตัวเองเป็นเด็ดขาดเพราะว่ามันจะทรมานมาก เพราะถ้าเป็นแล้วก็คือจะเป็นไปตลอดชีวิตไม่มีทางหาย คนที่เป็นโรคนี้ห้ามทานเผ็ดน้ำอัดลมอะไรก็แล้วแต่ที่ย่อยยาก ไขมันเยอะๆ กินได้ก็เฉพาะอาหารอ่อนๆ จืดๆเท่านั้น

ตลอดเวลาที่แอดมิดร่างกายไม่รับอาหารอะไรกินอะไรก็อ้วกก็ถ่ายออกหมด ให้น้ำเกลือบ่อยมากแต่น้ำหนักเหลือแค่ 38 คือร่างกายไม่เอาอะไรเลยบวกกับยาที่ทานเข้าไปจะไปกัดกระเพาะ ทรมานมากจำได้ดีทุกครั้งที่กินข้าวเสร็จไม่กี่คำจะรู้ตัวทันทีว่าอีกไม่นานจะต้องทรมานแน่ๆ พยาบาลฉีดยาให้ทุก 4 ชั่วโมงบรรเทาอาการปวดของเราให้

ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีประวัติแพ้ยามาก่อนเลยอัดยาแบบเต็มที่เลยทั้งฉีดทั้งกินหลังจากนอนรพ.ได้ 2 คืน เช้าวันที่3 ขอออกจากรพ.เนื่องจากหมอบอกว่าถ้าไหวก็ออกได้หมอจ่ายยาฆ่าเชื้อมาให้ก็คือเราหยุดถ่ายแล้วเหลือแค่มีอาการอาเจียนเท่านั้นหลังจากออกจากรพ.ได้ไม่ถึง 2 ชม.มีอาการคันตามหน้าคันที่หัวซึ่งตอนที่แอดมิดอยู่ก็มีอาการคันตามหนังศรีษะแต่ไม่หนักขนาดนี้ ก็เลยคิดว่าตัวเองสกปรกรึป่าวไม่สระผมก็เลยฝืนสระผมทั้งๆที่ยังตัวงออยู่เพราะปวดท้องมากสระผมอาบน้ำเสร็จก็ยังมีอาการคันอยู่แล้วก็มีผื่นขึ้นเต็มไปหมดเริ่มแน่นหน้าอก จุกที่ลิ้นปี่ เหมือนลิ้นจุกปาก หายใจไม่ถนัด ความทรมานมาเยือนอีกครั้ง

จนแบบเห้ยไม่ใช่ละ เลยแอบหาใน Google ก็คิดในใจสงสัยจะต้องแพ้ยาแน่ๆ ก็เลยกลับไปหาหมอตอนตี 5 หมอก็บอกว่ามันคืออาการแพ้ยาขั้นรุนแรง แต่หมอเองก็ให้คำตอบไม่ได้ว่าแพ้ยาอะไรเพราะกินเยอะมากฉีดนี่เยอะกว่า อีกอย่างหมอไม่ใช่หมอเฉพาะทาง ต้องรอมาพบหมอผิวหนังอีกครั้ง แต่หมอฉีดยาแก้แพ้ให้ หลังจากที่กลับมานอนพักที่คอนโด ผื่นคันที่เป็นในตอนแรกยุบลง แต่ผื่นเปลี่ยนเป็นดอกๆ เลยต้องรีบกลับไปหาหมอเฉพาะทางด้านผิวหนัง หมอบอกว่า 1 ใน 1,000 คนที่จะมีอาการแพ้แบบนี้ และได้ไปปรึกษาเภสัช

‼️ปรากฎว่า สรุปไม่ได้ว่าเป็นตัวไหนกันแน่

แต่สันนิษฐานว่าน่าจะ “แพ้ยากลุ่มฆ่าเชื้อ” ที่รักษาอาการลำไส้อักเสบ ตอนนี้ก็ทำได้แค่เฝ้าระวัง เพราะถ้ามันแพ้แล้วครั้งนึง แพ้ครั้งที่ 2 จะรุนแรงมากกว่าเดิม จนอาจจะช็อคและถึงชีวิตได้

ก็ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ จะกินจะทานหรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันเข้ามาเปลี่ยนแปลงอย่าพึ่งคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยเพราะคุณอาจจะได้ความทรมานนั้นไปตลอดเหมือนกับเราก็ได้

ที่มา – Panwanpat Boonthiam