เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อิทธิพลรุนแรงของพายุ “ฮาร์วีย์” ที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะที่เมืองฮูสตัน เกิดฝนตกกระหน่ำอย่างหนักติดต่อกันหลายวันจนน้ำท่วมสูงถึงระดับหลังคาในบางพื้นที่ ถือเป็นพายุรุนแรงที่สุดในรอบ 56 ปีของรัฐเท็กซัส และในรอบ 12 ปีของสหรัฐ ขณะที่รัฐบาลได้เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้อพยพมากกว่า 5,000 คน ที่เมืองดัลลัส โดยชาวอเมริกันต้องเผชิญภาวะน้ำท่วมแล้วกว่า 13 ล้านคน มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย และอพยพผู้คนกว่า 5 หมื่นคน

โดยน้ำท่วมจากพายุฮาร์วีย์ ยังทำให้การกลั่นน้ำมันของสหรัฐลดลงไปเกือบ 1 ใน 5 ของกำลังผลิตทั้งหมด มีเเนวโน้มว่าราคาน้ำมันจะปรับขึ้นทั้งประเทศเเละอาจรุนเเรงถึงขั้นน้ำมันเบนซินขาดตลาด

ข่าวระบุว่า โรงกลั่นในรัฐเทกซัสและรัฐลุยเซียนา ซึ่งเคยมีกำลังผลิตวันละ 5.6 ล้านบาร์เรล และ 3.3 ล้านบาร์เรลตามลำดับ หลังได้รับผลกระท่วมจากพายุ “ฮาร์วีย์” ทำให้กำลังผลิตลดลงวันละ 3.6 ล้านบาร์เรล หรือราวร้อยละ 20 ของกำลังผลิตทั้งประเทศ อีกทั้งต้องใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์กว่าจะฟื้นฟูได้หลังสถานการณ์กลับมาปกติ

โดยพื้นที่นิคมเบย์ทาวน์ ซึ่งเป็นนิคมปิโตรเลียมขนาดใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐและอันดับ 7 ของโลกต้องหยุดชะงัก สร้างความวิตกกังวลให้กับหลายฝ่าย ว่าอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันและราคาเชื้อเพลิงในตลาดโลก

มีการคาดการณ์ว่า ผลจากการปิดโรงกลั่นหลังได้รับผลกระทบอย่างหนักนั้น จะทำให้ราคาน้ำมันเบนซินล่วงหน้าของสหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี มีแนวโน้มว่าจะต้องปิดโรงกลั่นเพิ่มอีกเพราะรัฐเทกซัสมีฝนตกรวมแล้วกว่า 1.2 เมตร ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นไปอีก โดยเฉพาะราคาในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

Cr. ประชาชาติธุรกิจ

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online