เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันนี้ (2 ก.ย.) นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังเตรียมออกกฎกระทรวงว่าด้วยภาษีสรรพสามิต เพื่อกำหนดอัตราภาษีสุราและยาสูบ ที่จะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. นี้ ว่า เรื่องนี้เริ่มจากการที่กระทรวงคลังได้แก้ไขกฎหมายใหม่ของกรมสรรพสามิต เปลี่ยนจากการคำนวณภาษีจากราคาต้นทุนไปเป็นอัตราขายปลีก ซึ่งอัตราขายปลีกจะทำให้จัดเก็บภาษีได้สูงกว่า และจะสะท้อนการขายจริง ซึ่งวัตถุประสงค์ก็คงเพื่อจะปรับอะไรบางอย่างที่ไม่เสมอภาคกันของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิด

ส่วนกรณีที่มีการกำหนดเพดานภาษีของสุราหรือเหล้าที่ต่ำกว่าเบียร์นั้น นายสุปรีดา กล่าวว่า คงกล่าวไม่ได้ว่าเก็บอะไรสูงกว่ากัน เพราะเป็นการคำนวณจากเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์หรือดีกรีที่ต่างกัน โดยที่ผ่านมาเบียร์มักจะถูกเก็บตามราคาขาย เหล้ามักจะเก็บตามอัตราแอลกอฮอล์ แต่ก็ต้องยอมรับว่า เพดานภาษีใหม่จะส่งผลต่อราคาขายของเหล้าและเบียร์ที่อาจจะไม่แตกต่างกันมากนัก และจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค เช่น สุราพื้นบ้านทหรือเหล้าขาวเก็บต่ำกว่าเบียร์ ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกัน หรือเมื่อเทียบดีกรีแล้ว ผู้ดื่มแอลกอฮอล์ก็อาจจะหันไปบริโภคสุราหรือเหล้าขาวมากกว่าเบียร์ที่มีดีกรีน้อยกว่า

“ระยะหลังจำนวนผู้ดื่มสุรายังมีฐานเท่าเดิมอยู่ แต่ก็มีบางส่วนที่เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคจากเหล้าขาวมาเป็นเบียร์มากขึ้น แต่การกำหนดอัตราภาษีใหม่ ที่เบียร์จะถูกจัดเก็บภาษีมากกว่าเหล้าขาว ทำให้ราคาต่อดีกรีจะต่างกันมาก จนอาจมีส่วนจูงใจให้กลับมาบริโภคเหล้าขาวมากขึ้น” นายสุปรีดา กล่าว

ที่มา – ผู้จัดการ