เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล  พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่าที่ประชุมครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ…..ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอมีสาระสำคัญ คือเป็นการกำหนดให้ยกเลิกกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาพ.ศ.2550 แล้วให้กำหนดวงเงินงบประมาณและการบริหารวงเงินงบฯ สำหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการโดยให้ส่วนราชการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพในสังกัดครั้งที่ 1(1 เม.ย.) และครั้งที่ 2 (1 ต.ค.) ภายในวงเงินร้อยละ 3ของเงินเดือนที่จ่ายให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ณ วันที่ 1 มี.ค. และ 1 ก.ย.ตามลำดับ รวมถึงให้ส่วนราชการบริหารวงเงินในการเลื่อนเงินเดือนในภาพรวมของส่วนราชการหรือเขตพื้นที่การศึกษา

พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้กำหนดการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เลื่อนตามผลงาน อีกทั้งกำหนดกรอบวงเงินในการเลื่อนเงินเดือนรายบุคคลไม่เกินร้อยละ 6 ของฐานในการคำนวณและช่วงเงินเดือนสำหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละอันดับของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และยกเลิกโควตา 2 ขั้น ร้อยละ 15 ของจำนวนคน และให้ส่วนราชการหรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเลื่อนเงินเดือนในอัตราร้อยละที่แตกต่างกันตามคะแนนการประเมินผลการปฏิบัติงานโดยจะใช้วิธีการเฉลี่ยให้ข้าราชการแต่ละคนได้รับการเลื่อนเงินเดือนในอัตราที่เท่ากันไม่ได้  อีกทั้งให้ยกเลิกหลักการรอการเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีข้าราชการครูซึ่งถูกฟ้องคดีอาญาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และศาลได้ประทับรับฟ้องไว้แล้วหรือถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง กำหนดให้ผู้จะได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนต้องมีเวลาปฏิบัติราชการไม่น้อยกว่า4 เดือนในแต่ละรอบการประเมิน

“รวมถึงให้เลื่อนเงินเดือนให้แก่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศหรือได้รับอนุญาตให้ลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพให้สั่งเลื่อนเงินเดือนได้ไม่เกินร้อยละ 3 ของฐานเงินเดือนข้าราชการผู้นั้น สำหรับกรณีข้าราชการที่เสียชีวิตในระหว่างรอบการประเมินและปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า4 เดือนให้ได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนตามผลการปฏิบัติงาน”ผู้ช่วยโฆษกฯ ย้ำ

นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวว่า จากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 16/2560 แก้ไขคำว่า “ขั้นเงินเดือน” ในพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ทุกแห่ง เป็นคำว่า “เงินเดือน” ทำให้ต้องมีการปรับปรุงกฎก.ค.ศ.ว่าด้วย การเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยเปลี่ยนจากขั้นเงินเดือน มาเป็นช่วงเงินเดือน เช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือนและข้าราชการอื่นๆ ซึ่งเมื่อครม.มีมติเห็นชอบกฎ ก.ค.ศ.ฉบับใหม่นี้แล้วก่อนจะนำไปใช้ ทางสำนักงาน ก.ค.ศ.จะต้องมากำหนดรายละเอียดและแนวปฏิบัติเพื่อแจ้งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทราบต่อไป

ด้าน นายประวิทย์ บึงไสย์ ประธานชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่าคงต้องดูรายละเอียดและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ทราบรายละเอียดมาบ้างแล้วและมีความกังวลโดยเป็นห่วงโรงเรียนขนาดเล็กที่มีครูจำนวนน้อย และยิ่งถ้าเป็นครูบรรจุใหม่ซึ่งเงินเดือนก็น้อยทำให้ฐานเฉลี่ยเงินเดือนที่จะนำมาคำนวณต่ำส่งผลให้จำนวนเงินที่จะได้รับการปรับน้อยซึ่งต่างจากแบบเดิมที่ขึ้นเงินเดือนเป็นขั้นจะได้รับตัวเงินที่แน่นอนกว่า

ที่มา – เดลินิวส์