เมื่อเวลา 09.00 น วันที่ 7 ก.ย. ร.ต.อ.ภานุพงศ์ สรสุวรรณ พนักงานสอบสวน รับแจ้งเหตุคนร้ายทุบตู้บริจาคเงินศพน้องชาย ที่วัดเทพาราม หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพนักงานสอบสวน
ที่เกิดเหตุพบตู้บริจาคเงินงานศพที่ตั้งอยู่ภายในวัดถูกคนร้ายทุบจนกระจกแตกและขโมยเงินในตู้ไปทั้งหมด สอบสวนผู้เสียหายให้การว่า ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลน้องชายไว้ที่วัดแห่งนี้ หลังเสร็จพิธีสวดพระอภิธรรมก็ได้กลับบ้าน กระทั่งช่วงเช้าวันนี้มาก็พบว่าตู้บริจาคที่ชาวบ้านร่วมกันทำบุญบริจาคงานศพน้องชายถูกทุบ จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
ต่อมามีชาวบ้านที่มาร่วมงานศพแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งเพิ่งพ้นโทษมาไม่กี่เดือน ชอบมาขโมยอาหารแห้งภายในวัด โดยเลือกเอาแต่เฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้น จึงสงสัยว่าน่าจะเป็นคนทุบตู้บริจาคดังกล่าว หลังรับแจ้งจึงรุดไปยังบ้านผู้ต้องสงสัย และพบตัวนายชวลิต ทรายคำ อายุ 32 ปี และได้เข้าสอบถามนายชวลิต โดยรับสารภาพว่าเป็นคนทุบตู้บริจาคเงินงานศพดังกล่าวเอง และเงินก็เอาไปใช้จ่ายหมดแล้ว ตำรวจจึงควบคุมตัวมาที่วัด เพื่อนำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
นายชวลิต รับสารภาพว่า ตนเพิ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์มาไม่กี่เดือน ยังไม่มีงานทำและจะมาที่วัดแห่งนี้ในช่วงดึก เพื่อมาขโมยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในถังสังฆทานและไม่เอาของอย่างอื่น เพราะชอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นชีวิตจิตใจ ตั้งแต่เด็กจนอยู่ในเรือนจำ กระทั่งล่าสุดมาที่วัดช่วงเวลา 02.00 น. พบว่าประตูหน้าวัดไม่ได้ล็อคจึงเปิดประตูหน้าวัดเข้ามาเพื่อจะเข้ามาเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเหมือนเดิม แต่กลับพบตู้บริจาคงานศพในวิหารด้วย จึงใช้ท่อนอ้อยที่อยู่ในสังฆทานทุบตู้บริจาคและเอาเงินสดที่อยู่ในซองไปดังกล่าว โดยใช้ความหวานของท่อนอ้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านได้ยินผู้ต้องหาสารภาพว่าใช้ความหวานของท่อนอ้อยทุบตู้บริจาค ชาวบ้านพากันตระโกนด่าทอและบางรายก็เข้าไปรุมทำร้ายผู้ต้องหา เนื่องจากผู้ต้องหาให้การในลักษณะที่ยังไม่สำนึกผิด จึงทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่พอใจ
Cr. ช่าวสด
